สมัยเด็กๆ ผมมักคิดว่าคนฉลาดคือคนที่เรียนเก่ง หรือมีความรู้มากๆ แต่เมื่อเติบโตขึ้นมาทำให้ผมได้รู้ว่าสิ่งที่ผมคิดมาตลอดในวัยเด็กนั้นผิด คนที่ฉลาดคือคนที่รู้จักวิธีเข้าหาคนอื่น ปรับตัวเข้าหาคนอื่น ไม่ว่าการผูกมิตร การพูดจาให้เหมาะสมกับนิสัยใจคอมของอีกฝ่าย หรือแม้แต่การสร้าง First Impression รวมไปถึงการตอบสนองในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการ
เรามักจะเห็นว่าผู้นำ หรือบุคคลที่ประสบความสำเร็จส่วนมากจะมีความฉลาดอย่างที่ผมได้กล่าวมาทั้งนั้นเลย รวมไปถึงประธานาธิบดีของสหรัฐคนที่ 1 อย่าง จอร์จ วอชิงตัน
ในปี ค.ศ.1754 ก่อนที่อเมริกาจะประกาศอิสรภาพ 20ปี (อเมริกาประกาศอิสรภาพในปี 1774) มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาอาณานิคมเวอร์จิเนีย จัดขึ้นที่เมืองอเล็กซานเดรีย พันเอกจอร์จ วอชิงตัน (ก่อนที่จะเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐ) ซึ่งตอนนั้นยังเป็นทหารก็เข้ารณรงค์การเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วย
เพื่อนของวอชิงตันรวมไปถึงทหารที่อยู่ในบริเวณนั้นพากันล้อมจะเอาเรื่องเบน จนทำให้บรรยากาศตรึงเครียด ในสภาพอย่างนี้ถ้าปล่อยไป เบนคงโดนรุมอัดจนปางตาย แต่วอชิงตันไม่ปล่อยให้เป็นแบบนั้น
" เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของพวกคุณ " วอชิงตันกล่าว เหตุการณ์ทั้งหมดจึงผ่านไปได้ด้วยดี เบนจึงรอดออกมาอย่างปลอดภัย
วันต่อมา เบนได้รับกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่งทีวอชิงตันส่งมาให้ โดยเนื้อหานั้นต้องการให้เบนออกมาพบในร้านอาหารเล็ก ด้วยจิตวิญญาณของหทารจึงคิดว่าเจ้าวอชิงตันมันจะต้องนัดท้าดวลแน่นอน (ในสมัยนั้นการท้าดวลถือเป็นเรื่องปกติและไม่ติดคุก เพราะสมัยก่อนยังไม่มีกฏหมายเป็นชิ้นเป็นอันมากนัก) เบนจึงพกปืนไปกระบอกหนึ่งและออกไปพบวอชิงตันเพียงคนเดียว
แต่สิ่งที่เบนพบกับไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองคิด สิ่งที่เขาพบนั้นคือรอยยิ้มของวอชิงตันและอาหารที่รอคอยอยู่ " คุณเบน " วอชิงตันเริ่ม "ความผิดพลาดคือเรื่องธรรมดาของมนุษย์เรา การแก้ไขความผิดพลาดต่างหากคือสิ่งที่มีเกียรติ ผมคิดว่าเมื่อวานผมผิดพลาดไป ส่วนคุณก็ได้แก้เผ็ดในระดับหนึ่งแล้ว ถ้าคุณคิดว่าเราพอจะปรับความเข้าใจกันได้ ก็ขอให้คุณจับมือเป็นเพื่อนกับผม"
ด้วยความซึ้งใจเพราะเบนเนี่ยเป็นทหารที่หยิ่งในศักดิ์ศรี เห็นวอชิงตันยอมลดอัตราตัวเองและมาขอเป็นเพื่อนกับเขา คงจะปฏิเสธไม่ได้ เบนยื่นมือไปจับมือกับวอชิงตันด้วยความยินดี พร้อมกับกล่าวว่า " คุณวอชิงตัน โปรดให้อภัยความใจร้อนมุทะลุและไร้มารยาทของผมเมื่อวานนี้ด้วย "
นับแต่นั้นมา เบนกับวอชิงตันก็เพื่อนกัน และสนับสนุนกันและกันมาโดยตลอดไม่เปลี่ยนแปลง
เรื่องราวของวอชิงตันเป็นเรื่องราวที่น่าค้นหามากมาย วอชิงตันนั้นเป็นที่รักของทุกคน โดยเฉพาะทหาร ในสมัยเริ่มก่อตั้งสหรัฐในตอนที่ทำสงครามกับอังกฤษ จอร์จ วอชิงตัน กุมอำนาจสูงสุด เหนือสภา แต่จอร์จ วอชิงตัน กลับไม่ยอมรับอำนาจและลาออกจากการเป็นผบ.หทารสูงสุดของกองทัพ การกระทำนี้ทำให้ทั่วโลกตกตะลึก และตอกย้ำมโนสำนึกที่ว่าสภาอยู่เหนือกองทัพ ทำให้ในยุคต่อๆมาถึงแม้จะมีแม่ทัพที่เก่งกาจแค่ไหนก็จะไม่มีการยึดอำนาจสภาอย่างเด็ดขาด ซึ่งการกระทำของจอร์จ วอชิงตันมีผลอย่างยิ่งต่อการเป็นมหาอำนาจในอนาคต และเป็นต้นแบบของประธานาธิบดีของโลกที่น่ายกย่องที่สุด
เรามักจะเห็นว่าผู้นำ หรือบุคคลที่ประสบความสำเร็จส่วนมากจะมีความฉลาดอย่างที่ผมได้กล่าวมาทั้งนั้นเลย รวมไปถึงประธานาธิบดีของสหรัฐคนที่ 1 อย่าง จอร์จ วอชิงตัน
ผลการเลือกตั้งในท้ายที่สุดมีผู้สมัครเลือกตั้งเหลือเพียงแค่ 2 คน เท่านั้น คนส่วนใหญ่สนับสนุนบุคคลที่วอชิงตันสนับสนุน มีเพียงแค่วิลเลียม เบนที่คัดค้านแบบหัวชนฝา และโต้กับวอชิงตันอย่างรุนแรง จนถึงกับทำให้เบนออกหมัดใส่วอชิงตันจนล้มลงกองกับพื้น
เพื่อนของวอชิงตันรวมไปถึงทหารที่อยู่ในบริเวณนั้นพากันล้อมจะเอาเรื่องเบน จนทำให้บรรยากาศตรึงเครียด ในสภาพอย่างนี้ถ้าปล่อยไป เบนคงโดนรุมอัดจนปางตาย แต่วอชิงตันไม่ปล่อยให้เป็นแบบนั้น
" เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของพวกคุณ " วอชิงตันกล่าว เหตุการณ์ทั้งหมดจึงผ่านไปได้ด้วยดี เบนจึงรอดออกมาอย่างปลอดภัย
วันต่อมา เบนได้รับกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่งทีวอชิงตันส่งมาให้ โดยเนื้อหานั้นต้องการให้เบนออกมาพบในร้านอาหารเล็ก ด้วยจิตวิญญาณของหทารจึงคิดว่าเจ้าวอชิงตันมันจะต้องนัดท้าดวลแน่นอน (ในสมัยนั้นการท้าดวลถือเป็นเรื่องปกติและไม่ติดคุก เพราะสมัยก่อนยังไม่มีกฏหมายเป็นชิ้นเป็นอันมากนัก) เบนจึงพกปืนไปกระบอกหนึ่งและออกไปพบวอชิงตันเพียงคนเดียว
แต่สิ่งที่เบนพบกับไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองคิด สิ่งที่เขาพบนั้นคือรอยยิ้มของวอชิงตันและอาหารที่รอคอยอยู่ " คุณเบน " วอชิงตันเริ่ม "ความผิดพลาดคือเรื่องธรรมดาของมนุษย์เรา การแก้ไขความผิดพลาดต่างหากคือสิ่งที่มีเกียรติ ผมคิดว่าเมื่อวานผมผิดพลาดไป ส่วนคุณก็ได้แก้เผ็ดในระดับหนึ่งแล้ว ถ้าคุณคิดว่าเราพอจะปรับความเข้าใจกันได้ ก็ขอให้คุณจับมือเป็นเพื่อนกับผม"
ด้วยความซึ้งใจเพราะเบนเนี่ยเป็นทหารที่หยิ่งในศักดิ์ศรี เห็นวอชิงตันยอมลดอัตราตัวเองและมาขอเป็นเพื่อนกับเขา คงจะปฏิเสธไม่ได้ เบนยื่นมือไปจับมือกับวอชิงตันด้วยความยินดี พร้อมกับกล่าวว่า " คุณวอชิงตัน โปรดให้อภัยความใจร้อนมุทะลุและไร้มารยาทของผมเมื่อวานนี้ด้วย "
นับแต่นั้นมา เบนกับวอชิงตันก็เพื่อนกัน และสนับสนุนกันและกันมาโดยตลอดไม่เปลี่ยนแปลง
ใครยึดอำนาจใคร ก็ไม่ดีทั้งนั้น ยิ่งกลุ่มอำนาจทหาร ที่ไม่ยึดอำนาจ จากกลุ่มนักการเมืองพลเรือน เป็นประชาธิปไตยที่สุด เพราะประเทศต้องการแยกกันทำหน้าที่ ..
ตอบลบ