วินสตัน เชอร์ชิล (Winston Churchill) วัยเยาว์

"เราดำรงชีวิตอยู่ด้วยสิ่งที่เราหามาได้ แต่เราสร้างชีวิตให้มีคุณค่าด้วยสิ่งที่เรามอบให้กับผู้อื่น" Winston Churchill
            มหาสงครามครั้งที่ 2 อันเดือดดาลเต็มไปด้วยผู้เสียชีวิตจากมือสายพันธ์ด้วยกันเอง ถ้าเราถามผู้คนว่าคุณจะเต็มใจเข้าไปในบ้านคนอื่นเพื่อฆ่าคนทั่งครอบครัวแล้วยึดบ้านเป็นของตัวเองคุณจะทำหรือไม่ คนส่วนใหญ่จะไม่ทำเช่นนั้น แต่ทำไมถึงพอเป็นคำสั่งของผู้มีอิทธิพล มีอำนาจ ผู้คนส่วนมากต่างกระหายที่จะทำเช่นนั้น เป็นคำถามที่ตอบโจทย์มนุษยชาติอย่างมาก

            ภายใต้สงครามอันน่าเวทนาและการเข้าโจมตีของนาซีเยรมัน ด้วยการนำของ Adolf Hitler ด้วยการโจมตีแบบสายฟ้าฟาดเข้าจุดศูนย์กลางการปกครอง ทำให้ประเทศในยุโรปต่างยอมแพ้รวมไปถึงฝรั่งเศษ ซึ่งเป็นผู้นำในสงครามโลกครั้งที่ 1 อังกฤษเป็นเป้าหมายที่ Adolf Hitler ต้องการที่จะครอบครอง แต่ถูกปฏิเสธด้วยความพินาศของกองบินที่นาซีเยรมันส่งไปพิชิตเมืองลอนดอน ภายใต้หมอกควันและซากซากปรักหักพังในใจกลางเมืองลอนดอน Winston Churchill นายกรัฐมนตรีของอังกฤษยืนสูบซิกก้ากลางดงระเบิดที่ถูกทิ้งลงมาโดยเครื่องบินนาซีเยรมัน เพื่อให้ชาวเมืองได้เห็นว่าผู้นำของเขานั้นไม่กลัว Adolf Hitler และจะไม่ยอมให้อังกฤษถูกใครยึดเอาไป Winston Churchill ประกาศว่าเขาจะไม่ยอมแพ้อย่างเด็จขาด
 ผลก็คือเครื่องบินจำนวนมากของนาซีเยรมันถูกเครืองบินอังกฤษขับไล่ออกไปเป็นจำนวนมาก และมอบความปราชัยแรกให้กับ Adolf Hitler ซึ่งเป็นปัจจัยนึงที่เปลี่ยนแปลงหน้าฉากแห่งสงครามโลกครั้งที่ 2

Winston Churchill คนนี้เค้าเป็นใครกัน ?

            เด็กน้อยตัวเล็กผิดปกติเนื่องจากเกิดก่อนกำหนด นามว่า Winston Leonard Spenser Churchill ได้ถือกำเนิดขึ่นหนูน้อยเชอร์ชิลเกิดท่ามกลางความสบายและความร่ำรวยมีมารดาเป็นลูกสาวนายธนาคารซึ่งเป็นสาวสังคม มีบิดาเป็นถึงท่านลอร์ด แรนดอล์ฟเป็นคนที่บ้างาน ทั่งสองจึงไม่มีเวลาให้กับลูกของตัวเอง จึงเป็นหน้าที่ของพี่เลี้ยง และคนใช้ที่ต้องมาคอยดูแล จึงโตมาอย่างไม่มีใครกล้าขัดใจ เอาแต่ใจอยากได้อะไรต้องได้ เป็นเด็กที่หัวแข็งมากคนหนึ่ง เรื่องราวเหล่านี้อาจจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้หนูน้อยเชอร์ชิลกลายเป็นสิงโตเหล็กที่ไม่ยอมก้มหัวให้ใครในอนาคต

            หนูน้อยเชอร์ชิลชอบเล่นทหารตะกั่วเห็นพันๆชิ้นอย่างไม่ยอมเบื่อ และจัดกำลังกองทหารของตนเองโดยตั้งตนเป้นแม่ทัพได้เป็นชั่วโมงๆ ช่วยให้คนรับใช้เบาแรงไปมาก 

ความผูกพันธ์กับทหารในตอนเล็กๆจึงเป็นทัศนคติที่ส่งผลไปสู่อนาคตอย่างเข้มข้น และส่งผลให้เชอร์ชิลมีบทบาทที่สำคัญต่อโลกใบนี้    

            หลังจากนั้นพอคุณหนูอายุได้ 7 ขวบก็ถูกส่งเข้าโรงเรียนประจำชั้นยอด และทันสมั่ย แม้ภาพลักษณ์โรงเรียนจะดีแต่ภายในนั้นชั่งเน่าขุ่น มีครูใจร้ายที่ชอบเฆี่ยนตี ซึ่งหนูน้อยเชอร์ชิลก็โดนตีมากกว่าชาวบ้าน โดยเฉพาะเตะหน้าแข้งครูผู้หญิง หรือ ตอนกระทืบหมวกของครูใหญ่ 

            สองปีต่อมาหนูน้อยเชอร์ชิลป่วยจึงจำเป็นต้องกลับมาเรียนพิเศษที่บ้าน แม้หนูน้อยเชอร์ชิลจะไม่ตั้งใจเรียน แต่เค้าก็อ่านทุกอย่างที่ขวางหน้า และจำสิ่งที่อ่านได้อย่างละเอียดจนน่าตลึง

            เชอร์ชิลกลับเข้าไปเรียนอีกครั้ง แต่พ่อของเค้าก็ถึงกับเขียนจดหมายบอกลูกตัวเองว่า "ถ้าไม่ปรับปรุงตัวเองโตขึ้นจะเป็นได้แค่ขยะสังคม" จากการสอบที่ห่วยแตกของลูกตัวเอง เชอร์ชิลมักจะชอบเรียนแต่วิชาที่ตัวเองชอบ เช่น ภาษาอังกฤษ และทำคะแนนได้ดีมาก นอกจากนั้นคะแนนจะแย่มาก

            หลังจากนั้นเชอร์ชิลเข้าสอบโรงเรียนนายร้อยแซนด์เฮร์สต์ และสอบถึง 3 ครั้งถึงจะติดอันดับบ๊วยของโรงเรียนนี้จึงถูกจัดให้เข้าเรียนแผนกทหารม้า ต้องไปรวมกลุ่มกับลูกท่านหลานเธอที่เรียนไม่เก่ง แต่คาวนี้ผลเป็นดั่งไม่คาดฝัน การเรียนของเชอร์ชิลดีขึ้นอย่างมากเพราะเป็นวิชาที่เค้าชอบ ไม่ว่าจะเป็นการรบ ประวัติศาสตร์การปกครอง จึงทำคะแนนได้ดีเมื่อผลสอบออก แต่เป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่พ่อของเค้านั้นได้เสียชีวิตก่อนจะเห็นความสำเร็จของลูกตัวเอง


            การเล่นของเด็กและชีวิตในวัยเด็กส่งผลไปถึงวัยผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการอ่าน การเล่นหุ่นสงคราม หรือความเอาแต่ใจ และได้ทุกอย่างที่ต้องการ และการเลือกเรียนแต่วิชาที่ตัวเองชอบอย่างเช่นภาษาอังกฤษส่งผลให้ วินสตัน เชอร์ชิล เป็น มหาบุรุษสงคราม ไม่ว่าจะเป็นการพูดดั่งเทพที่จูงใจคนทั่งชาติที่ต่อสู้อย่างไม่ยอมแพ้ ผลงานโนเบลสาขาวรรณกรรม และการวางกลยุทธ์สงคราม การรบและการเอาชีวิตรอดและเรื่องราวทั่งหมดร้อยเรียงกันเป็นห่วงโซ่ที่แข็งแกร่งจนไม่มีใครที่สามารถฉีกกระชากออกไปได้

ตอนต่อไป จะเป็นความกล้าหาญและความฉลาดในการรบ รวมไปถึงประสบการณ์บางอย่างที่ทำให้วันสตันเป็นมหาบุรุษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง

ความคิดเห็น