บทความนี้จะจัดอันดับ 5 ภาพยนตร์สร้างแรงบันดาลใจยอดเยี่ยม (ที่สร้างจากเรื่องจริง) ที่ผมเคยดูมาเพื่อแนะนำให้ผู้อ่านสนใจชมภาพยนตร์เหล่านี้และได้รับแรงบันดาลใจที่ดี เพราะสำหรับผมสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตคือแรงบันดาลใจ คนบางคนต้องการแรงบันดาลใจที่จะมีชีวิต หรือบางคนต้องการแรงบันดาลใจเพื่อจะทำอะไรบางอย่าง ภาพยนคร์ทั้ง 5 เรื่องจะมอบมันแก่ท่าน
อันดับ 5 Invictus 2009
Director by Clint Eastwood
เรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของ Mark Zuckerberg CEO ของบริษัท Facebook ที่มีผู้ใช้บริการอยู่ทั่วโลก ภาพยนตร์นำเสนอในรูปแบบของ Rashomon กล่าวคือตัวละครจะมีความจริงในแบบของตนที่ไม่มีเหมือนกันและขัดแย้งกัน และมีความจริงอยู่หลายแบบ คนดูต้องตัดสินใจเอาเองว่าอะไรที่เป็นความจริง และเราจะเชื่อใครดี ภาพยนตร์ดำเนินเรื่องตั้งแต่ Mark เริ่มทำทำ Facebook จนกระทั่งประสบความสำเร็จ เราจะเห็นบุคลิกของ Mark ที่น่าทึ่งและน่าหมั่นใส้ พร้อมกับได้เรียนรู้ความคิดต่างๆของตัวละคร และได้ขบคิดอะไรหลายอย่าง เราจะเห็นว่าเหตุผลของการสร้าง Facebook นั้นคืออะไร และมันเป็นสิ่งที่บางครั้งเราคิดไม่ถึงว่าสิ่งที่สุดยอดที่สุดในโลกอย่าง Facebook จะถูกสร้างด้วยเหตุผลอะไรเช่นนี้
ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงของ Steve Jobs ผู้ก่อตั้งบริษัท Apple ที่ผลิต Mac iPhone iPad และ iPod ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ซึ่งเรื่องราวของ Steve Jobs ในเรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวที่นำมาจากหนังสือ Steve Jobs เขียนโดย Walter Isaacson โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เรียงตามลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้้นจริง แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงมาใส่ไว้ใน เหตุการณ์ 3 เหตุการณ์ นั้นคือการนำเสนอ Macintosh neXT และ iMac เป็น 3 องค์ และใช้กล้องที่มีคุณภาพแตกต่างกันตามลำดับ ค.ศ. ภาพยนตร์เรื่องนี้สะท้อนให้เราขบคิดไปถึงตัว Steve Jobs และสนามพลังเบี่ยงเบนความจริงของเขาที่พูดอะไรก็ตามจะมีผู้คนที่เชื่ออยู่เสมอ และทุกอย่างอาจไม่ได้เป็นอย่างที่ Steve Jobs พูดไว้ก็ได้ ภาพยนตร์มีประโยคที่คมคายและแฝงข้อคิดไว้หลายอย่าง รวมไปถึงเบื้่องหลังของเทคโนโลยีที่เป็นที่นิยม
เหตุผลที่ Lincoln ได้อันดับ 2 ซึ่งมากกว่าภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมอย่าง The Social Network และ Steve Jobs คงจะขัดใจผู้อ่านหลายคน แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างมาจากเหตุการณ์จริงของ ประธานธิปดีคนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา ในช่วงระหว่างสงครามกลางเมืองระหว่างฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้ โดยเป้าหมายของ Lincoln คือการยกเลิกระบบทาส และ การที่จะทำให้ระบบนี้สิ้นสุดได้ จำเป็นจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีผู้ต่อต้านเยอะมากรวมไปถึงฝ่ายเหนือของตัวเอง Lincoln และทีมงานจะต้องใช้วิธีมากมายทั่งเล่ห์ทั้งกลเพื่อที่จะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ผ่าน ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นจุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก และเหตุผลหลักที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ที่ 2 คือ ความพยายามที่จะต่อสู้เพื่อผู้ที่ถูกกดขี่ข่มเหง โดยที่ตนเองไม่ได้ประโยชน์อะไร คงจะเป็นพลังที่ผู้คนในโลกปัจจุบันต้องการ และได้เรียนรู้จักบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใลกผู้นี้
เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ผู้อ่านอาจคาดไม่ถึง แต่สำหรับผมมันเป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมมาก ทั้งเศร้าและมีความสุขในเรื่องเดียวกัน และได้ข้อคิดมากมายเกี่ยวกับการมองคน การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งดำเนินเรื่องโดย Leigh Anne Tuohy ที่พูดถึงลูกบุญธรรม Michael Oher นักกีฬาอเมริกันฟุตบอลชื่อดัง Michael คือเด็กที่แม่ติดยา พ่อทิ้งไปตั้งแต่ยังเล็กและเสียชีวิต ชีวิตของ Michael นั้นเป็นชีวิตที่น่าเศร้า ในสังคมที่มองว่าเด็กผิวดำนั้นเป็นเด็กที่ไม่ดี ติดยา ขี้ขโมย แต่ครอบครัว Tuohy ไม่ได้มองแบบนั้นและเลี้ยงดู Michael พร้อมกับให้ความรักและให้ชีวิตใหม่แก่เด็กผิวดำตัวใหญ่ที่น่าสงสาร ครอบครัว Tuohy ได้เปลี่ยนชีวิต Michael และ Michael ก็ได้เปลี่ยนชีวิตครอบครัว Tuohy เช่นกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยความสวยงาม ความงดงามของชีวิต การให้โอกาส และความรักที่ไม่มีเงื่อนไข รอยยิ้มจากเรื่อง The Blind Side จะคงอยู่ไปอีกนาน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรแนะนำให้หามาดูกันครับ
อันดับ 5 Invictus 2009
Director by Clint Eastwood
ภาพยนตร์เรื่องนี้ดำเนินเรื่องโดยเนลสัน มันเดลา (Morgan Freeman) ซึ่งเนลสัน มันเดลา มีบุคลิกที่เป็นผู้นำอันดับต้นๆของโลก ทุกคนจะได้ตื่นตาตื่นใจกับบุคลิกอันน่าทึ่งและสมควรเอาเป็นแบบอย่าง โดยภารกิจของเนลสันก็คือการฟื้นฟูแอฟริกาใต้ที่มีการเหยียดผิวกัน รวมไปถึงกีฬารักบี้ที่มีการเหยียดผิวด้วยเช่นกัน วิธีการจะแก้ปัญหาเรื่องการประเทศชาติคือการรวมชาติให้เป็นหนึ่งเดียว ทำให้การเหยียดผิวถูกทำลายไป ซึ่งวิธีที่แนลสันใช้คือแบบอย่าง (แนวคิดทางด้านจิตวิทยาสังคมของ Albert Bandura) ถ้าเราสร้างแบบอย่างของการไม่เหยียดผิวขึ้นมาจะมีแนวโน้มให้ผู้คนคล้อยตามความคิดนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นบอดี้การ์ดที่มีทั้ง 2 ผิว หรือทีมรักบี้ที่คนผิวดำไม่ชอบ วิธีที่จะทำให้การเหยียดผิวถูกทำลายจึงต้องทำให้ทีมกีฬานี้ได้แชมป์โลกรักบี้ นั้นคือภารกิจของเนลสันที่จะต้องทำให้สำเร็จให้ได้ มันจะสำเร็จและผลจะเป็นอย่างไรต้องติดตามภาพยนตร์เรื่องนี้ Invictus
"ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม หรือมีอุปสรรคมากแค่ไหน อย่าลืมว่าเราเป็นผู้กำหนดชะตากรรมของตัวเอง เราเป็นผู้นำจิตวิญญาณของตัวเอง"
อันดับ 4 The Social Network 2010
Director by David Fincher
เรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของ Mark Zuckerberg CEO ของบริษัท Facebook ที่มีผู้ใช้บริการอยู่ทั่วโลก ภาพยนตร์นำเสนอในรูปแบบของ Rashomon กล่าวคือตัวละครจะมีความจริงในแบบของตนที่ไม่มีเหมือนกันและขัดแย้งกัน และมีความจริงอยู่หลายแบบ คนดูต้องตัดสินใจเอาเองว่าอะไรที่เป็นความจริง และเราจะเชื่อใครดี ภาพยนตร์ดำเนินเรื่องตั้งแต่ Mark เริ่มทำทำ Facebook จนกระทั่งประสบความสำเร็จ เราจะเห็นบุคลิกของ Mark ที่น่าทึ่งและน่าหมั่นใส้ พร้อมกับได้เรียนรู้ความคิดต่างๆของตัวละคร และได้ขบคิดอะไรหลายอย่าง เราจะเห็นว่าเหตุผลของการสร้าง Facebook นั้นคืออะไร และมันเป็นสิ่งที่บางครั้งเราคิดไม่ถึงว่าสิ่งที่สุดยอดที่สุดในโลกอย่าง Facebook จะถูกสร้างด้วยเหตุผลอะไรเช่นนี้
"บางครั้งเรื่องที่เล็กน้อยและเรียบง่ายที่สุด สามารถมีอิทธิพลให้เกิดปรากฏการณ์ที่เราไม่เคยคาดฝันได้"
อันดับ 3 Steve Jobs 2015
Director by Danny Boyle
"บุคคลที่มีอิทธิพลต่อผู้อื่น คือบุคคลที่สามารถเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงในสายตาของผู้อื่นได้ รวมไปถึงเปลี่ยนแปลงเรื่องโกหกให้กลายเป็นจริงอย่างง่ายดายด้วยเช่นกัน"
อันดับ 2 Lincoln 2012
Director by Steven Spielberg
"ผู้ที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง จะแสดงออกอย่างอ่อนโยนต่อผู้อื่น และมองเห็นคุณค่าของผู้คนเท่าเทียมซึ่งกันและกัน"
อันดับ 1 The Blind Side 2009
Director by John Lee Hancock
เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ผู้อ่านอาจคาดไม่ถึง แต่สำหรับผมมันเป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมมาก ทั้งเศร้าและมีความสุขในเรื่องเดียวกัน และได้ข้อคิดมากมายเกี่ยวกับการมองคน การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งดำเนินเรื่องโดย Leigh Anne Tuohy ที่พูดถึงลูกบุญธรรม Michael Oher นักกีฬาอเมริกันฟุตบอลชื่อดัง Michael คือเด็กที่แม่ติดยา พ่อทิ้งไปตั้งแต่ยังเล็กและเสียชีวิต ชีวิตของ Michael นั้นเป็นชีวิตที่น่าเศร้า ในสังคมที่มองว่าเด็กผิวดำนั้นเป็นเด็กที่ไม่ดี ติดยา ขี้ขโมย แต่ครอบครัว Tuohy ไม่ได้มองแบบนั้นและเลี้ยงดู Michael พร้อมกับให้ความรักและให้ชีวิตใหม่แก่เด็กผิวดำตัวใหญ่ที่น่าสงสาร ครอบครัว Tuohy ได้เปลี่ยนชีวิต Michael และ Michael ก็ได้เปลี่ยนชีวิตครอบครัว Tuohy เช่นกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยความสวยงาม ความงดงามของชีวิต การให้โอกาส และความรักที่ไม่มีเงื่อนไข รอยยิ้มจากเรื่อง The Blind Side จะคงอยู่ไปอีกนาน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรแนะนำให้หามาดูกันครับ
"ชีวิตที่มีความหมายคือชีวิตที่อยู่เพื่อผู้อื่น ทำให้ผู้อื่น ให้โอกาสผู้อื่น และรู้จักมอบคำว่ารักให้ผู้อื่น"
จบไปแล้วกับ 5 อันดับภาพยนตร์ที่สร้างแรงบันดาลใจ (สร้างจากเรื่องจริง) แนะนำให้หามาดู เพราะภาพยนตร์เหล่านี้มีความหมาย และมีพลังที่ซ้อนอยู่ ภาพยนตร์คือประสบการณ์ทางอ้อมที่คนเราสามารถเรียนรู้ได้เพียงแค่นั่งอยู่หน้าจอ และประสบการณ์จาก 5 เรื่องนี้จะเป็นประสบการณ์ที่สำคัญและให้แรงบันดาลใจแก่ผู้ชมอย่างแน่นอน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น