นานมาแล้วที่ผมไม่เคยดูอะไรที่สนุกจนอยากดูหลายๆครั้งแบบนี้มาก่อน
ถ้าเราสังเกต Animation สมัยปัจจุบันเราจะเห็นความแตกต่างกับอดีตอยู่มาก สิ่งที่แตกต่างกันนั้นคือ Animation ในอดีตจะเน้นนหนักไปที่ความบันเทิง ความตลก ความสนุกสนาน และจินตนาการสำหรับเด็กๆ เพื่อรักษาวัยเด็กของเด็กเหล่านั้น และคงมันไว้ ซึ่งแน่นอนเป็นสิ่งที่ดีและมีสาระในตัวของมันเอง แต่ Animation สมัยนี้ต่างจากอดีตทุกอย่างยังคงไว้เช่นเดิม เพียงแต่เสริมเกี่ยวกับความคิด และคำพูดของตัวละครที่เรียกได้ว่าคมคายในระดับหนึ่ง
Zootopia เป็นอีกเรื่องหนึ่งนอกเหนือไปจาก Little prince และ Inside Out ที่นอกจากจะแฝงไปด้วยปรัชญาและจิตวิทยาที่สามารถเข้าใจได้ไม่ยากมาก สิ่งที่ทำให้ Zootopia คล้ายคลึงกับ Little- Prince ก็คือวัฒนธรรม Little Prince ใช้นิยายก้องโลกมาเป็นตัวดำเนินเรื่องพร้อมไปกับตัวละครในโลกปัจจุบันและนำเสนอเกี่ยวกับวัฒนธรรมในปัจจุบันที่ทุกคนนั้นเหมือนกัน และผู้ปกครองที่เคี่ยวเข็ญลูกเพื่อให้ประสบความสำเร็จในชีวิต หรือรักลูกในทางที่ผิดก็ได้เช่นกัน และ Zootopia เน้นไปที่วัฒนธรรมเช่นกัน โดยใช้ตัวละครเป็นสัตว์หลายๆชนิดมาอยู่รวมกันในสังคม และสัตว์แต่ละชนิดจะทำหน้าที่แตกต่างกัน มีอาชีพที่แตกต่างกันไป และอาชีพนั้นจะขึ้นอยู่กับชนิดของสัตว์
ผมเชื่อว่า Zootopia น่าจะผสมกันระหว่าง Zoo = สวนสัตว์ และ Utopia = นครที่มีแต่ความสงบสุขทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่มีคนยากคนจน (แม้คำว่า Topia จะแปลว่าสถานที่ก็ตาม) เป็นชื่อหนังสือของเซอร์ธอมัส มอร์ที่อธิบายถึงสังคมที่สมบูรณ์แบบ เพื่อเสียดสีสังคมปัจจุบัน (ค.ศ.1519) ซึ่งในฉากที่กระต่ายเข้าเมืองครั้งแรกนั้น จะเห็นได้ถึงความสมบูรณ์แบบของเมือง และสายตาที่มองลงไปจากรถไฟอย่างสดใส แต่ความจริง Zootopia ก็คือสังคมปกติเหมือนกับโลกปัจจุบัน
ตัวละครหลักอย่างกระต่าย ( Judy Hopps ) ที่ใฝ่ฝันว่าจะโตขึ้นและเป็นตำรวจเปลี่ยนแปลงโลกให้น่าอยู่มากขึ้น โดยเจ้าตัวนั้นคิดว่า ในนคร Zootopia นั้นทุกคนสามารถเป็นอะไรก็ได้ตามที่ตัวเองต้องการ และเธอสามารถเป็นตำรวจได้ตามที่ต้องการ แต่ก็พบว่าทุกอย่างมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่เธอคิดและฝันเอาไว้ สังคมมีการแบ่งแยกหน้าที่กันตามชนิดของสัตว์ โลกนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอฝันเอาไว้ หรือว่าเราจะต้องถูกชะตาชีวิตมากำหนดไว้ว่าถ้าเราเกิดมาแบบนี้ เราจะไม่สามารถเป็นแบบอื่นได้ จนเมื่อ Judy Hopps ได้เจอกับ สุนัขจิ๊งจอกเจ้าเล่ อย่าง Nick Wilde ซึ่งเป็นศัตรูทางชีวภาพของกระต่าย แต่เมื่อพวกเขาได้ร่วมมือกัน มิตรภาพเริ่มก่อตัวขึ้นกลายเป็นความสวยงามที่อยู่เหนือสายพันธ์ุเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต้องลองติดตามดู
ในสังคมอเมริกันเมื่อนานมาแล้วมองว่าคนผิวขาวและผิวดำนั้นไม่เท่าเทียมกัน และคนผิวดำไม่สามารถได้สิทธิแบบที่คนผิวขาวได้ และไม่สามารถประกอบอาชีพ หรือนึกฝันแบบที่คนผิวขาวนึกฝันได้ นั้นเป็นเรื่องน่าเศร้าในหลายๆเรื่องของประวัติศาสตร์ แต่คนผิวดำหลายๆคนก็ไม่หยุดฝันและพยายามที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดทางวัฒนธรรมและสำเร็จตามในสิ่งที่ฝันได้
Animation เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ให้แรงบัลดาลใจกับเด็กทุกคน และผู้ใหญ่ทุกคน ว่าเราสามารถเป็นอะไรก็ได้ในสิ่งที่เราต้องการ เราแค่รักที่จะทำและพยายามให้เวลากับมัน ที่สำคัญอย่ายอมแพ้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
"คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้"
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น