จำเป็นมั้ยที่จะต้องประสบความสำเร็จเหมือนกับคนอื่น

แต่ละคนจะรู้สึกประสบความสำเร็จแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเป้าหมายในชีวิตของเขาเหล่านั้น

            เมื่อผมได้ลองคิดเกี่ยวกับคำว่าประสบความสำเร็จ คำว่าแรงจูงใจผุดเข้ามาอยู่ในหัวของผมอย่างรวดเร็ว อาจจะเป็นเพราะว่าแรงจูงใจเป็นคำหนึ่งที่ได้รับการกล่าวถึงอย่างมาก โดยเฉพาะ"แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์" ซึ่งผมมองว่ามันเป็นหัวใจสำคัญของหนังสือเกี่ยวกับการวางเป้าหมายหรือความสำเร็จ หนังสือเหล่านี้เป็นที่นิยมอย่างมากในอดีตและยังคงนิยมในปัจจุบัน แม้ผมจะมองว่าความนิยมของหนังสือประเภทนี้จะลดลงเล็กน้อยก็ตาม

            ถ้าดูนิยามของแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ตามข้อค้นพบของนักจิตวิทยาชื่อดังอย่าง เดวิด  แมคเคิลแลนด์ (David McClelland) พบว่า แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ คือ แรงจูงใจที่เกิดจากความต้องการที่จะพยายามกระทำบางสิ่งบางอย่างที่ได้รับมอบหมายหรือรับผิดชอบให้สำเร็จ ไม่ว่างานนั้นจะมีความยากลำบากหรือประสบปัญหาอุปสรรคมากน้อยเพียงใดก็ตาม

            ผมมองว่านิยามนี้เป็นอะไรที่เข้าใจง่ายมาก คนบางคนมีความต้องการที่จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง เพียงแต่เขาอาจจะไม่ได้ใฝ่หาคำว่า "สำเร็จ" แต่เขาต้องการจะทำบางสิ่งบางอย่างให้สำเร็จ เขาอาจจะมีความหลงใหลในสิ่งนั้นและทำมันอย่างสนุกสนาน หรืออาจจะทำมันไปอย่างบ้าคลั่งโดยที่ไม่มองผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำของตัวเองเลยก็ตาม

            แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ ไม่ได้บอกว่าเราจะทำมันเพราะเงินตราที่หอมหวาน หรือความนับน่าถือตา สิ่งเหล่านี้เป็นแรงจูงใจภายนอกที่กระตุ้นให้มนุษย์แต่ละคนแสดงพฤติกรรมที่แตกต่างกัน แต่ภายในจิตใจของเรายังมีแรงจูงใจที่เกิดจากแรงผลักดันภายใน แรงแห่งความหลงใหล แรงแห่งความปรารถนาที่จะทำบางสิ่งบางอย่างให้สำเร็จ มนุษย์เราแสดงพฤติกรรมออกไปตามแรงจูงใจทั้งภายในและภายนอก โดยสามารถออกมาในรูปของการกระทำได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การอ่านหนังสือ การเรียน การทำงาน การเดินทาง การเขียนหนังสือ หรือแม้แต่ความร่ำรวย และเป็นที่นับหน้าถือตาในสังคม

ราทุกคนมีนิยามของการประสบความสำเร็จที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเป้าหมายในชีวิต

            เราจึงสามารถสรุปได้ว่าแรงที่ผลักดันให้เราประสบความสำเร็จ จึงมาทั้งภายในจิตใจและภายนอกจิตใจ เช่น การยอมรับ เงิน ชิ้นงาน หรือผลงาน ขึ้นอยู่กับว่าแรงผลักอะไรจะมากกว่ากัน ดังนั้นคำว่า "ประสบความสำเร็จ" สำหรับผมแล้วจึงไม่สามารถนิยามมันได้อย่างเหมาะเจาะและตรงใจคนทุกคน เพราะเราทุกคนมีนิยามของการประสบความสำเร็จที่แตกต่างกัน

            ผมคิดว่าการที่แต่ละคนจะรู้สึกประสบความสำเร็จมันขึ้นอยู่กับว่าเป้าหมายในชีวิตของเราคืออะไร ถ้าเราตั้งเป้าหมายให้ไกล คำว่าประสบความสำเร็จมันก็จะไกลตามไปด้วย เช่น ร่ำรวย เป็นที่ชื่นชอบของคนจำนวนมาก หรือธุรกิจเติบโต ในขณะเดียวกันคนที่ตั้งเป้าหมายในชีวิตไว้ไกล้ ๆ เช่น อ่านหนังสือ อาทิตย์ละหนึ่งเล่ม ลดน้ำหนักลงห้ากิโลกรัม หรือเป็นครูที่ดีของนักเรียน เป็นการประสบความสำเร็จที่สามารถเอื้อมถึงได้ง่ายกว่า

            เป้าหมายในชีวิตจึงสัมพันธ์กับการประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง หากเราตั้งเป้าหมายไว้ใกล้ ๆ จำนวนมากเราจะเข้าถึงความสำเร็จและมีความสุขได้หลายครั้งมากกว่าคนที่ตั้งเป้าหมายไว้ไกล เพราะแม้จะไปถึงเป้าหมายนั้นได้ความสุขที่ได้ก็จะหายไปราวกับหิมะบนฝ่ามือ เนื่องจากมนุษย์มีกระบวนการปรับตัวที่อัศจรรย์ จึงเป็นเหตุผลที่ยิ่งคนมีมากขึ้นก็ยิ่งอยากได้มาก แต่หากเราปรารถนาในสิ่งที่สายตาของเรามองเห็น มันก็จะทำให้เราค่อย ๆ ขยับไปไกลมากขึ้น ทีละเล็ก ทีละน้อย 

            ผมแนะนำว่าเราควรตั้งเป้าไว้มากกว่าหนึ่งเป้าหมาย และวิ่งไปให้ถึงเป้าหมายนั้น เป้าหมายของเราจะยิ่งขยายไปไกลขึ้น และเราจะรู้สึกประสบความสำเร็จถี่มากกว่าการประสบความสำเร็จเพียงครั้งเดียวที่จะค่อย ๆ สลายไปตามกาลเวลา การอิ่มหลายครั้งมีความสุขมากกว่า การกินมื้อเดียวที่อิ่มเพียงครั้งเดียวจริงมั้ยครับ สุดท้ายสิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับมุมมอง ขึ้นอยู่กับเป้าหมายที่เราตั้งด้วยตนเอง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนรอบตัว หรือคนมีชื่อเสียงในสังคม เราควรจะฟังเสียงความปรารถนาที่แท้จริงของตัวเอง 

ว่าชีวิตที่เผชิญกับความยากลำบากมาทั้งชีวิตของเราต้องการอะไรกันแน่

ความคิดเห็น