นักรบผู้ต่อต้านการใช้อำนาจอย่างไม่เหมาะสม คีธ ริชาร์ดส์ (Keith Richards) มือกีต้าร์วงโรลลิ่งสโตนส์

ความเป็นเสรีมันไม่ได้ถูกฟ้าลิขิตมา มันเป็นผลมาจากประสบการณ์ในอดีต

            ผมต้องยอมรับว่าผมเกิดไม่ทันช่วงวงโรลลิ่งสโตนส์โด่งดัง แต่ผมรู้จักเรื่องราวของ คีธ ริชาร์ดส์ (Keith Richards) จากหนังสือ The Righteous Mind: Why Good People Are Divided by Politics and Religion เรื่องราวนี้ทำให้ผมตระหนักว่ามันสามารถเกิดขึ้นได้กับเราทุกคน และผมเชื่อว่าเรื่องราวประเภทนี้เคยเกิดขึ้นกับใครหลายคนในอดีต ซึ่งมันหล่อหลอมจนกลายเป็นตัวเราในทุกวันนี้

            ประสบการณ์ในอดีตมีอิทธิพลมากกว่าที่เราคิดเอาไว้ ทัศนคติ การมองโลก ความสามารถ นิสัยใจคอล้วนมีอดีตเป็นตัวหล่อหลอมด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งก่อนที่ คีธ ริชาร์ดส์ จะมาเป็นมือกีต้าร์ผู้ต่อต้านการใช้อำนาจอย่างไม่เหมาะสม เขาก็เคยเป็นนักเรียนสงบเสงี่ยมคนหนึ่งเท่านั้น โดยที่มีจุดเปลี่ยนบางอย่างที่ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงไป

            คีธ ริชาร์ดส์ เป็นมือกีต้าร์วงในตำนานอย่างโรลลิ่งสโตนส์ (The Rolling Stones) ในวัยเด็กเขาเป็นสมาชิกตัวเล็กที่แสนสงบเสงี่ยมในวงประสานเสียงของโรงเรียนแห่งหนึ่ง วงนี้ได้ทำชื่อเสียงอย่างมากให้กับโรงเรียน โดยการประชันกับโรงเรียนอื่น ๆ มากมายหลายครั้ง ดังนั้นครูผู้ควบคุมวงจึงใช้สิ่งนี้เป็นเป็นข้ออ้างให้ริชาร์ดส์และเพื่อน ๆ ไม่ต้องเข้าเรียน เพื่อจะได้เดินทางไปร่วมการแข่งขันในระดับที่ใหญ่ขึ้นได้

            แต่เมื่อนักเรียนในกลุ่มนี้ได้แตกเนื้อหนุ่มทำให้เสียงของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปตามวัย ครูผู้ควบคุมวงกลับทอดทิ้งพวกเขา เมื่อพวกเขาได้รับแจ้งว่าต้องเรียนซ้ำชั้นเพื่อชดเชยเวลาเรียนที่ขาดไป โดยครูผู้ควบคุมวงผู้เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดไม่ได้ปกป้องอะไรพวกเขาเลย 

คีธ ริชาร์ดส์ (Keith Richards) แห่งวงโรลลิ่งสโตนส์ (The Rolling Stones)

            ริชาร์ดส์เล่าให้ฟังว่า "มันเหมือนโดนเตะเข้าที่ท้อง ขณะที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น สไปค์ เทอร์รี่ และผม พวกเราได้กลายเป็นผู้ก่อการร้าย ผมคลั่งแค้น ผมหมกไหม้อยู่ในไฟแห่งการล้างแค้น ผมมีเหตุผลที่จะถล่มประเทศนี้และทุกสิ่งทุกอย่างที่มันยืนหยัดต่อสู้มา ผมใช้เวลาสามปีต่อจากนั้นกับการพยายามจะสร้างปัญหาแม่งทุกอย่าง ถ้าคุณอยากจะเพาะพันธุ์ขบถ นี่คือวิธีที่จะทำมัน"

            เขายังเล่าต่อว่า ไฟแค้นนี้ยังไม่ดับมอด นั่นคือตอนที่ผมเริ่มมองโลกนี้ในทางที่ต่างออกไป ไม่ใช่ในทางของพวกเขาอีกต่อไป นั่นคือตอนที่ผมตระหนักว่ามีอันธพาลที่ใหญ่กว่าเด็ก อันธพาลในห้องเรา ยังมีพวกมัน ไอ้พวกที่อยู่ในอำนาจและชนวนระเบิดที่ลามอย่างช้า ๆ ได้ถูกจุดขึ้น" เรื่องเล่าชีวิตนี้เป็นสะพานเชื่อมระหว่างการพัฒนาตัวตนในวัยหนุ่มสาว กับอัตลักษณ์ทางการเมืองเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิตเขา 

ข้อคิด

            1) ประสบการณ์ในอดีตหล่อหลอมตัวตนเราในปัจจุบัน แม้ริชาร์ดส์อาจจะมีความโน้มเอียงในบุคลิกภาพของเขาที่จะกลายเป็นเสรีนิยมอยู่ก่อนแล้วในบางส่วนเมื่อครั้งที่เขายังเป็นเด็กไม่ว่าจะเป็นนิสัยใจคอหรือทัศนคติ แต่ความเป็นเสรีมันไม่ได้ถูกฟ้าลิขิตมา มันเป็นผลมาจากประสบการณ์ในอดีตซึ่งเกิดมาจากการที่ครูผู้ควบคุมวงที่เป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจในโรงเรียนทอดทิ้งและหักหลังเขา 

            ในทางตรงกันข้ามหากครูคนนั้นปฏิบัติกับเขาแตกต่างออกไปจากนี้ หรือเขาตีความเหตุการณ์นี้แตกต่างออกไป เขาก็อาจจะจบลงที่ชีวิตการทำงานแบบคนปกติทั่วไป แต่สิ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาเติบโตมาเป็นนักรบผู้ต่อต้านการใช้อำนาจอย่างไม่เหมาะสม ผมเน้นว่าเป็นส่วนหนึ่งเพราะมันยังมีอีกหลายปัจจัยในอดีตที่ทำให้เราเป็นเราในทุกวันนี้

            2) อย่ากลายเป็นผู้ใหญ่ที่ทำลายความคาดหวังของคนอื่น หากเราไม่อยากจะสร้างความบอบช้ำทางจิตใจให้แก่เด็กหรือใครก็ตาม เราก็ไม่ควรจะไปทำลายความคาดหวังของเขา ข้อคิดนี้ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ หรือครู อาจารย์ก็สามารถนำไปใช้ได้ เพราะเมื่อเรามีสัมพันธภาพที่ดีกับเด็กแล้ว มันจะทำให้เขาคาดหวังในตัวเราโดยอัตโนมัติ เช่น คาดหวังว่าจะเข้าใจ คาดหวังว่าจะต้องเป็นผู้ใหญ่ที่ดี หรือคาดหวังว่าจะช่วยเหลือเขา

            อย่างไรก็ตามเราไม่สามารถทำทุกอย่างตามที่ใครคาดหวังในตัวเราได้ เพียงแต่การจะไปทำลายความคาดหวังอย่างรุนแรงแบบกรณีของริชาร์ดส์ เราสามารถหลีกเลี่ยงได้โดยการเอาใจเขามาใส่ใจเรา ในทางกลับกันเราสามารถสอนพวกเขาเมื่อพวกเขากำลังเดินในทิศทางที่ผิด เพียงแต่เราจะต้องทำให้เขาเข้าใจเหตุผลและเจตนาที่ถูกต้องของเราด้วย 

หากเราสามารถทำได้สำเร็จ ก็จะทำให้พวกเขาสามารถเติบโตได้อย่างงดงาม

อ้างอิง

Haidt, J. (2013). The Righteous Mind: Why Good People Are Divided by Politics and Religion NY: Vintage.

ความคิดเห็น