ฟลาวเวอร์ส (Flowers) และเฟอร์นันเดซ (Fernandez) ผู้ก่อตั้งดินเนอร์ปาร์ตี้ (The Dinner Party) ที่ช่วยเยียวยาจิตใจคน

การรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าต่อผู้อื่นจะทำให้เรามองว่าตัวเองมีความหมาย

            ในประเทศสหรัฐอเมริกามีโครงการเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นทั่วประเทศเรียกว่า "ดินเนอร์ปาร์ตี้" (The Dinner Party) ซึ่งดำเนินการภายใต้องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 หนึ่งในกิจกรรมของพวกเขาก็คือการจัดงานเลี้ยงมื้อค่ำสำหรับคนที่ต้องการพื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตของตัวเองหลังจากสูญเสียคนที่รักไป

            องค์กรนี้ก่อตั้งโดย เลนนอน ฟลาวเวอร์ส (Lennon Flowers) และ คาร์ล่า เฟอร์นันเดซ (Carla Fernandez) ฟลาวเวอร์สหนึ่งในผู้ก่อตั้งสูญเสียคุณแม่ไปโดยโรคมะเร็งปอดตอนที่เธออายุได้ 21 ปี การสูญเสียครั้งนี้เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเธอ เมื่อเธอจบการศึกษาจากวิทยาลัยและย้ายไปที่รัฐแคลิฟอร์เนีย เธอก็พบว่าการพูดถึงเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ยากอย่างมาก

            เพราะผู้คนใหม่ ๆ ที่ฟลาวเวอร์สพบเจอไม่รู้จักแม่ของเธอและบางครั้งเธอก็จำเป็นต้องบอกพวกเขาว่าแม่ของเธอเสียชีวิต ซึ่งทุกคนที่ฟังมักจะรับมือโดยแบ่งออกเป็นสองแบบ นั่นก็คือหลายคนเลือกที่จะตีตัวออกห่าง ในขณะที่หลายคนก็แสดงสีหน้าสงสาร เม้มปาก ขมวดคิ้ว เอียงคอเล็กน้อย จากนั้นก็พูดประโยคเดียวกันเสมอ "เสียใจด้วยนะ"

            ปฏิกิริยาทั้งสองแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกโดดเดี่ยว ฟลาวเวอร์สรู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระที่ทำให้พวกเขาอึดอัดใจหรือไม่ก็เป็นคนที่น่าสงสาร เธอจึงเลือกที่จะไม่ปริปากพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย แม้มันจะทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังปิดบังตัวตนส่วนหนึ่งที่สำคัญต่อเธอก็ตาม

        จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้พบกับ คาร์ล่า เฟอร์นันเดซ เพื่อนร่วมงานของเธอ พวกเธอทั้งสองกลายเป็นเพื่อนที่คบหากันกันอย่างสนิทสนม ซึ่งในภายหลังฟลาวเวอร์สพบว่าพ่อของเฟอร์นันเดซเสียชีวิตไปแล้วเช่นกัน สิ่งนี้ทำให้ทั้งสองคนยิ่งเชื่อมโยงกันมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

            ทั้งคู่เคยเลือกใช้วิธีการหลีกเลี่ยงเหมือนกันด้วยเหตุผลที่ไม่แตกต่างกัน ซึ่งมันทำให้พวกเธอพบเจอกับความโดดเดี่ยวในยามที่เศร้าใจ เมื่อทั้งคู่อยู่ร่วมกันแบ่งปันความเศร้าร่วมกัน แบ่งปันเรื่องราวของกันและกัน จนทำให้พวกเธอตระหนักว่ากระบวนการแบบนี้สามารถช่วยเหลือฟื้นฟูจิตใจของตัวพวกเธอเองที่เจ็บปวดได้

            เฟอร์นันเดซตัดสินใจจัดงานพบปะสำหรับหญิงสาวทุกคนที่เธอรู้จักซึ่งต้องสูญเสียพ่อหรือแม่ไป ในการพบกันครั้งนี้เธอทำข้าวผัดปาเอญ่าสูตรของครอบครัวเพื่อระลึกถึงพ่อของเธอที่เป็นชาวสเปนด้วย ทุกคนกินอาหารร่วมกันบริเวณระเบียงบ้านของเฟอร์นันเดซและพูดคุยกันจนถึงตีสอง

            นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นกำเนิดองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรชื่อ "ดินเนอร์ปาร์ตี้" (The Dinner Party) ซึ่งปัจจุบันได้มีการจัดงานเลี้ยงมื่้อค่ำไปทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเธอใช้เว็บไซต์ชื่อ thedinnerparty.org เป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงสมาชิก พร้อมทั้งมอบแนวทางให้กับผู้คนจัดงานในการสร้างบรรยากาศของความปลอดภัยและการสนับสนุนให้พูดคุยกันแบบเปิดอก

ผู้คนจัดงานดินเนอร์ปาตี้จะสร้างบรรยากาศของความปลอดภัยและการสนับสนุนให้พูดคุยกันแบบเปิดอก

            กิจกรรมงานเลี้ยงมื้อค่ำนี้มีสมาชิก 10 คนและหลายคนเพิ่งเจอกันครั้งแรก ผู้เข้าร่วมงานแต่ละคนจะนำอาหารมาแบ่งปันกัน โดยอาหารนั้นควรเป็นสิ่งที่ช่วยให้พวกเขาเปิดบทสนทนาเกี่ยวกับคนที่พวกเขารักซึ่งจากไปแล้ว เช่น ลาซานญ่าสุดโปรดของพ่อสาว เค้กสูตรเดียวกับที่ภรรยาทำเพื่อฉลองวันครบรอบแต่งงาน หรือซุปที่พ่อมักทำให้กินตอนป่วย

            ผู้จัดงานจะดำเนินกิจกรรมด้วยการกระตุ้นให้เกิดการพูดคุยระหว่างมื้ออาหารแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้ทบทวนเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาต้องการจะพูด งานเลี้ยงมื้อค่ำนี้จะมีทั้งเสียงหัวเราะ น้ำตา และความเงียบงัน จากนั้นก็ปิดท้ายกิจกรรมด้วยการให้ผู้เข้าร่วมงานแต่ละคนทบทวนว่าพวกเขารู้สึกดีกับการพูดคุยในชุมชนนี้ในเรื่องใดบ้าง

            สำหรับฟลาวเวอร์ส การก่อตั้งดินเนอร์ปาตี้ช่วยเธอได้ในแบบที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว ในหนังสือ The Upside of Stress: Why Stress Is Good for You, and How to Get Good at It ผู้เขียน เคลลี แม็คโกนิกาล (Kelly McGonigal) ได้สัมภาษณ์ฟลาวเวอร์สซึ่งเธอเล่าว่า "การสูญเสียสามารถทำให้เรารู้สึกราวกับไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้ แต่การรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าต่อผู้อื่นจะทำให้เรามองว่าตัวเองมีความหมาย ฉันรู้สึกอิ่มเอมใจมากที่ดินเนอร์ปาร์ตี้ช่วยพาฉันออกมาจากโลกที่มีแต่ความเคว้างคว้างและได้พบเป้าหมายของตัวเองอีกครั้ง"

            แม็คโกนิกาลเปรียบเทียบเรื่องราวของพวกเธอกับการวิจัยชิ้นหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าการได้รับการสนับสนุนมากขึ้น "เมื่อคุณพยายามแสดงความของคุณต่อผู้อื่น คุณก็จะได้รับคำขอบคุณจากผู้อื่นมากขึ้น และเมื่อคุณทุ่มเทความพยายามไปกับการทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของสังคม คุณจะกลายเป็นสมาชิกที่มีความสำคัญและเป็นที่รัก"

            เมื่อรู้สึกโดดเดี่ยวในยามที่เครียดหรือทุกข์ใจ ให้เราลองพิจารณาว่าอะไรคือสิ่งที่เราปรารถนามากที่สุด ถ้ามีบางสิ่งที่เราต้องการหรือชุมชนที่เราคิดว่าน่าจะช่วยสนับสนุนเราได้ ให้ลองคิดว่าเราจะสามารถเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างสิ่งนั้นเพื่อคนอื่นได้อย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการจับกลุ่มร่วมกันพูดคุยถึงความขับข้องใจ ความทุกข์ หรือแม้แต่จะเป็นความสูญเสียก็ตาม

            ผู้คนที่ใช้ความอ่อนแอในการทำสิ่งที่กล้าหาญด้วยการมองหาวิธีสนับสนุนผู้อื่นและใช้ความทุกข์ของตัวเองเป็นจุดเชื่อมโยงกับผู้อื่นมักจะลงเอยด้วยการได้รับการสนับสนุนทางสังคมมากขึ้น เช่นเดียวกับฟลาวเวอร์สและเฟอร์นันเดซที่ก่อตั้งดินเนอร์ปาตี้ขึ้นมา ส่งผลให้พวกเธอรู้สึกโดดเดี่ยวน้อยลงกับการต่อสู้ของตัวเอง

และได้อยู่ท่ามกลางชุมชนที่เต็มไปด้วยความห่วงใย

อ้างอิง

McGonigal, K. (2016). The Upside of Stress: Why Stress Is Good for You, and How to Get Good at It. NY: Avery.

ความคิดเห็น