ด้น ดัด ประสาน (Improvisation): จิตวิญญาณแห่งจูกาต การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ในโลกที่ไม่แน่นอน

จูกาต ไม่ใช่เพียงเทคนิค แต่คือจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์  ศิลปะแห่งการดัดแปลง ซ่อมแซม และประยุกต์สิ่งรอบตัวให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดภายใต้ข้อจำกัดที่สุด

            หลังจากประกาศอิสรภาพในปี 1947 ประเทศอินเดียต้องเผชิญบททดสอบครั้งใหญ่ จากประเทศเกษตรกรรมที่เปราะบาง สู่การพึ่งพาตนเองในยุคสงครามเย็น และการปฏิรูปเศรษฐกิจครั้งประวัติศาสตร์ในปี 1991 ที่เปิดประเทศสู่ระบบตลาดโลกอย่างเต็มรูปแบบ นับแต่นั้นมา อินเดียได้กลายเป็นตัวอย่างของ “ชาติที่เรียนรู้ซ้ำได้ไม่รู้จบ” พลังแห่งการเรียนรู้และการปรับตัวได้ผลักดันให้ประเทศก้าวสู่ยุคใหม่ของเทคโนโลยีและนวัตกรรม

            สิ่งที่อินเดียมอบให้โลก ไม่ได้มีเพียงอารยธรรมหรือปรัชญาอันเก่าแก่เท่านั้น หากคือพลังแห่งการเรียนรู้ที่ฟื้นคืนได้เสมอ” “ความสามารถในการปรับตัว” และ “จิตวิญญาณแห่งการเรียนรู้อย่างไม่รู้จบ” คุณลักษณะเหล่านี้ได้กลายเป็น Soft Skills ที่ฝังอยู่ในวัฒนธรรมของคนอินเดีย และส่งต่อมายังคนรุ่นใหม่ที่ก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลก

            ไม่ว่าจะเป็น ซุนดาร์ พิชัย (Sundar Pichai) ซีอีโอของ Google หรือ สัตยา นาเดลลา (Satya Nadella) ซีอีโอของ Microsoft บุคคลเหล่านี้ต่างเติบโตขึ้นจากรากวัฒนธรรมที่มอง “ความเปลี่ยนแปลงไม่ใช่อุปสรรค แต่คือเวทีแห่งการเติบโต” พวกเขาสืบทอดสิ่งเดียวกันจากบรรพบุรุษของตน คือทักษะแห่งการมองโลกด้วยสายตาแห่งผู้เรียนรู้เสมอ

            ในดินแดนที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรมและทรัพยากรจำกัดเช่นอินเดีย ได้ถือกำเนิดแนวคิดหนึ่งที่สะท้อนหัวใจของความเป็นอินเดียได้อย่างชัดเจน นั่นคือคำว่า “จูกาต” (Jugaad)
คำสแลงจากภาษาฮินดีและปัญจาบีที่หมายถึง “การแก้ปัญหาเชิงพลิกแพลงด้วยทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด”

            “จูกาต” ไม่ใช่เทคนิคหรือวิธีการ แต่คือจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์  ศิลปะแห่งการดัดแปลง ซ่อมแซม และประยุกต์สิ่งรอบตัวให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดภายใต้ข้อจำกัดที่สุด มันคือทัศนคติของคนที่ไม่รอให้ทุกอย่างพร้อม แต่เลือกจะเริ่มต้นด้วยสิ่งที่มี และทำให้มันดีขึ้นในทุกครั้งที่เรียนรู้ นี่คือรากเหง้าของ “นักสร้างสรรค์ที่เปลี่ยนข้อจำกัดให้เป็นโอกาส” ผู้ที่ไม่เพียงมองเห็นทางออกในที่ที่คนอื่นเห็นกำแพง แต่ยังสร้างเส้นทางใหม่ขึ้นมาด้วยมือของตนเอง 

            ในบทความที่แล้วผมเขียนบทความเกี่ยวกับโอกาสทางธุรกิจของอินเดีย โดยมีปัจจัยสำคัญคือตัวบุคคลที่มีจิตวิญญาณแห่งจูกาต การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ด้วยทรัพยากรที่จำกัดที่สุด แต่ผลลัพธ์กลับมากที่สุด แต่ในบทความนี้ผมอยากเจาะลึกลงไปในจิตวิญญาณแห่งจูกาต ที่ด้น ดัด ประสาน จนเกินเป็นผลลัพธ์ที่สร้างสรรค์ ซึ่งผมเชื่อเหมาะสมกับโลกปัจจุบันและในอนาคตอย่างมาก

            อย่างที่ผมได้กล่าวในบทความที่แล้ว อินเดียเติบโตขึ้นมาท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความแออัด ความเหลื่อมล้ำ และทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ทว่าความท้าทายเหล่านี้ไม่เคยทำให้คนอินเดียยอมแพ้ หากกลับกลายเป็นแรงบ่มเพาะบุคลิกแห่งการดิ้นรนเชิงสร้างสรรค์ที่ทั้งอึด ถึก ทน และไม่ยอมถอยง่าย ๆ งานวิจัยด้านนวัตกรรมหลายฉบับชี้ว่า ความสามารถในการ “ด้น ดัด ประสาน” 

            ผมชอบ 3 คำนี้มาก “ด้น ดัด ประสาน” ซึ่งผมแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า Improvisation คำนี้มีความหมายว่า "การด้นสด หรือการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ขึ้นมาอย่างทันทีทันใด โดยไม่มีการเตรียมการหรือบทที่แน่นอนล่วงหน้า" ผมหลีกเลี่ยงใช้คำว่า ด้นสดเพียงอย่างเดียวเพราะ มันดูมักง่ายเกินไป จะสร้างสรรค์อะไรขึ้นมาได้แม้จะมีทรัพยากรจำกัด มันจะต้องมีการนำสิ่งที่ด้นสดมา ดัดแปลง และประสานออกมากลายเป็นนวัตกรรม ดังนั้น Improvisation ในบทความนี้ผมจึงขอใช้คำว่า “ด้น ดัด ประสาน”

            Singh, Gupta และ Mondal (2012) ได้ศึกษาเกี่ยวกับจูกาตอย่างละเอียด และอธิบายว่า "Jugaad ไม่ใช่แค่กลยุทธ์ทำได้ด้วยทรัพยากรจำกัด หรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น แต่เป็น กลยุทธ์ในการอยู่รอด (Survival strategy) ที่ปรับตัวให้เข้ากับข้อจำกัดของผู้คนในชั้นล่างของปิรามิด (Bottom of the Pyramid) ชาวชนบทอินเดียใช้จูกาตตั้งแต่ระดับครัวเรือนจนถึงผู้ประกอบการเล็ก ๆ เพื่อรับมือกับสภาวะการใช้ชีวิตที่มีข้อจำกัด

ประเภทของจูกาต

            แนวคิดเรื่องจูกาตสามารถจำแนกออกได้เป็นสามระดับตามลักษณะของการสร้างสรรค์และเจตนาการใช้งาน ได้แก่ Survival Jugaad (ตอบสนองความจำเป็นพื้นฐาน) Creative Jugaad (เกิดจากแรงปรารถนาสร้างสรรค์เกินกว่าความจำเป็น) และ Innovative Jugaad (มีองค์ประกอบผู้ประกอบการ และอาจขยายผลให้เกิดผลประโยชน์สังคม) ซึ่งสะท้อนพัฒนาการของความคิดจากการอยู่รอดไปสู่การสร้างคุณค่าใหม่ให้สังคม

Jugaad เป็น กลยุทธ์ในการอยู่รอดที่ปรับตัวให้เข้ากับข้อจำกัดของผู้คนในชั้นล่างของปิรามิด

            ในระดับแรกคือ Survival Jugaad หมายถึงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้ในสภาพแวดล้อมที่มีทรัพยากรจำกัด ตัวอย่างเช่น การซ่อมสิ่งของที่ชำรุด การดัดแปลงเครื่องมือเก่าให้ใช้งานได้อีกครั้ง หรือการนำวัตถุที่เหลือใช้มาใช้ประโยชน์ใหม่ การกระทำเช่นนี้สะท้อนทักษะการเอาตัวรอดของผู้คนที่ไม่ยอมจำนนต่อข้อจำกัด

            ขั้นต่อมาคือ Creative Jugaad ซึ่งเกิดจากแรงผลักดันทางความคิดสร้างสรรค์เกินกว่าความจำเป็นพื้นฐาน ผู้คนในระดับนี้ไม่ได้เพียงซ่อมหรือใช้ซ้ำ แต่เริ่มออกแบบใหม่เพื่อเพิ่มคุณค่าและความสะดวกในชีวิต เช่น การดัดแปลงรถจักรยานให้มีหลังคากันฝน หรือการประดิษฐ์ของใช้ในครัวเรือนจากวัสดุเหลือใช้ ความคิดเช่นนี้คือจุดเริ่มต้นของนวัตกรรมในเชิงชุมชนที่ขับเคลื่อนด้วยจินตนาการและความอยากทดลอง

            ระดับสูงสุดคือ Innovative Jugaad ซึ่งมีลักษณะของการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurial mindset) และสามารถขยายผลให้เกิดประโยชน์ในระดับสังคม ตัวอย่างเช่น การดัดแปลงมอเตอร์พ่นยาให้ใช้ในภาคเกษตร การสร้างวีลแชร์ที่สามารถไต่บันไดได้ หรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ราคาย่อมเยาเพื่อตอบสนองความต้องการของคนในชุมชน ซึ่งจูกาตประเภทนี้ไม่เพียงแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ยังกลายเป็นต้นแบบของนวัตกรรมเชิงสังคม (Social innovation) ที่เกิดจากจิตสำนึกในการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและตอบแทนส่วนรวม

            ผมเชื่อว่านี่เองคือหัวใจของความสำเร็จในยุคใหม่ เพราะมันเปิดพื้นที่ให้การลองผิดลองถูกกลายเป็นเครื่องมือแห่งการเรียนรู้ ไม่ใช่ความล้มเหลว  เรื่องราวของอินเดียจึงไม่ใช่เพียงหน้าประวัติศาสตร์ของชาติหนึ่ง หากแต่เป็นภาพสะท้อนของกรอบความคิดแบบเติบโตในระดับอารยธรรม ความเชื่อว่าทุกความล้มเหลวคือข้อมูลใหม่ ทุกข้อจำกัดคือสนามฝึก และทุกการเริ่มต้นใหม่คือบทต่อไปของการเรียนรู้ที่ลึกซึ้งกว่าเดิม 

            อินเดียไม่ได้รอดจากความเปลี่ยนแปลงเพราะหลีกเลี่ยงมัน หากแต่เติบโตได้เพราะเรียนรู้ที่จะเต้นไปกับมัน อย่างชาญฉลาด ความสามารถในการด้น ดัด และประสาน ทำให้ประเทศที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนนี้สามารถเปลี่ยนความไม่แน่นอนให้กลายเป็นจังหวะแห่งการเติบโตได้เสมอ จนทำให้การด้นสดเพื่อการอยู่รอด ปรับขยายกลายเป็นการสร้างนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงสังคมและประเทศได้

            ยกตัวอย่างเช่น ตู้เย็น Mitticool (Innovative Jugaad) เป็นนวัตกรรมที่เริ่มจากปัญหาพื้นฐานของครอบครัวชนบท “ไม่มีไฟฟ้า” ช้วัสดุดินเหนียวในท้องถิ่น สร้างระบบระเหยน้ำเพื่อทำความเย็นได้จริง ต่อมาถูกพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์จำหน่ายทั่วประเทศและต่างประเทศ หรือ การผูกกระป๋องกับจักรยานหรือโคมไฟจากวัสดุเหลือใช้ (Creative Jugaad) เป็นตัวอย่างของการประดิษฐ์เล็ก ๆ ที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของชาวบ้าน เพื่ออำนวยความสะดวก เพิ่มคุณค่า และความสุนทรียะในชีวิตประจำวัน

            ไปจนถึง เทคโนโลยีอวกาศราคาประหยัดของ ISRO (Indian Space Research Organisation) ระบบชำระเงินดิจิทัล UPI (Unified Payments Interface) ที่เป็นระบบการเงินที่เชื่อมบัญชีธนาคารทุกแห่ง เข้าถึงได้แม้ในพื้นที่ห่างไกล ลดต้นทุนทางธุรกรรม สะดวก ปลอดภัย และเข้าถึงกลุ่มประชากรที่ไม่มีบัญชีธนาคาร หรือ บริการมือถือราคาถูกที่สุดในโลก (เช่น Jio, BSNL) ที่ใช้โมเดลธุรกิจที่ลดต้นทุนสูงสุด เพื่อให้บริการครอบคลุมทุกคนในประเทศ เปลี่ยนโฉมการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของอินเดียทั้งหมด

            ในโลกยุคปัจจุบันที่กำลังเคลื่อนไปสู่สิ่งที่นักคิดเรียกว่า BANI World โลกที่เปราะบาง (Brittle) เต็มไปด้วยความวิตกกังวล (Anxious) ดำเนินไปอย่างไม่เป็นเส้นตรง (Nonlinear) และยากต่อการคาดเดาหรือทำความเข้าใจ (Incomprehensible) เราทุกคนต่างยืนอยู่ในจุดเดียวกับอินเดียในประวัติศาสตร์ ต้องเผชิญกับคลื่นของเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ และความผันผวนทางเศรษฐกิจที่หมุนเร็วเกินจะตั้งตัว โลกที่ไม่มีแผนที่แน่นอนอีกต่อไป 

            ด้น ดัด ประสาน จึงมีความเหมาะสมอย่างมากยุคสมัยที่โลกเปราะบางเช่นนี้ ความผันผวนดังกล่าวสอนเราว่า นวัตกรรมไม่ได้เกิดจากความพร้อมที่สุด แต่จากความกล้าที่จะเริ่มต้นในวันที่เรายังไม่พร้อมที่สุด และเมื่อเรามีใจที่เปิดรับการเรียนรู้ ปรับตัว และเติบโตอยู่เสมอ เราก็จะสามารถเต้นไปกับความไม่แน่นอนได้อย่างสง่างาม ไม่ต่างจากที่อินเดียเคยทำมาแล้วบนเส้นทางแห่งประวัติศาสตร์ของตนเอง

            แม้อินเดียจะมีความเหลื่อมล้ำและความยากจนเช่นเดียวกับประเทศไทย แต่ก็ผมเชื่อว่ามันมีไดนามิกที่กำลังขับเคลื่อนนวัตกรรมและความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เพียงแต่เราต้องรู้จัก "ด้น ดัด ประสาน" ยอมรับจิตวิญญาณแห่งจูกาต ยอมรับโลกแห่งความไม่แน่นอน พร้อมที่จะแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์

เพราะในโลกที่เปราะบางและไม่แน่นอนที่สุด ผู้ที่อยู่รอดไม่ใช่คนที่แข็งแรงที่สุด แต่คือคนที่พร้อมเปลี่ยนจังหวะได้เร็วที่สุด

อ้างอิง

คาลอส บุญสุภา. (2568). จากเส้นทางเครื่องเทศถึงทางด่วนดิจิทัล: เจาะดีเอ็นเอจูกาต (Jugaad) และโอกาสธุรกิจยุคใหม่ในอินเดีย. https://sircr.blogspot.com/2025/05/jugaad.html

Arya, R. (2020). Jugaad: A study in Indian ingenuity and improvisation. https://blogs-lse-ac-uk.translate.goog/southasia/2020/03/09/jugaad-a-study-in-indian-ingenuity-and-improvisation/?_x_tr_sl=en&_x_tr_tl=th&_x_tr_hl=th&_x_tr_pto=tc

Singh, R., Gupta, V., & Mondal, A. (2012). Jugaad: From “making do” and “quick fix” to an innovative, sustainable and low-cost survival strategy at the bottom of the pyramid. South Asian Journal of Management, 19(4), 21–37.

ความคิดเห็น