เลโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo Da Vinci) วัยเยาว์

" ชีวิตเป็นแค่เรื่องง่ายๆ คุณทำอะไรหลายอย่างขึ้นมา หลายอย่างล้มเหลว บางอย่างสำเร็จคุณก็ทำมันมากขึ้น และถ้ามันประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ ใครๆก็จะลอกเลียน จากนั้นคุณก็ทำอย่างอื่นอีก เคล็ดลับก็คือทำอย่างอื่นอีก " Leonardo Da Vinci
รูปภาพที่เกี่ยวข้องเลโอนาร์โด ดา วินชีเป็นยอดอัจฉริยะของโลกตลอดกาล ภาพเขียนโมนาลิซาที่เล่าลือกันมานานและใช้เวลาถึง 4 ปีในการวาด ภาพที่มีรอยยิ้มแปลกประหลาดและงดงามทั้งยังมีสีสันที่สวยงาม รวมไปถึงภาพอาหารมื้อสุดท้ายซึ่งคนรู้จักกันทั่วโลก เขาไม่ได้เป็นเพียงแค่จิตกรที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังเป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร นักออกแบบ นักดนตรี นักเขียน เรียกได้ว่ามีความสามารถแทบทุกด้าน

เลโอนาร์ฺโดเกิดเมื่อ ค.ศ. 1452 เป็นลูกนอกกฎหมายของ เซอร์ อิเอโร และ แคเธอรินา เขาเติบโตมาในความดูแลของพ่อแต่เพียงผู้เดียว เขาจึงเป็นเด็กที่ค่อนข้างจะว้าเหว่และเปล่าเปลี่ยวอยู่เสมอ กล่าวได้ว่า ชีวิตของเลโอนาร์โดตั้งแต่เด็กจนโต การที่เขานั้นมีความสามารถพิเศษที่ยอดเยี่ยมส่งผลให้เขานั้นค่อนข้างเปล่าเปลี่ยวเดียวดายมาตั้งแต่เด็ก เมื่อเลโอนาร์โดอายุได้ 5 ขวบทั้งพ่อและแม่ก็แต่งงานใหม่ แม่แต่งกับชาวนาด้วยกัน ส่วนพ่อได้ภรรยาถูกต้องตามกฎหมายเป็นสายตระกูลชนชั้นสูง

            ปู่ซึ่งเป็นคนตั้งชื่อให้ รับหลานชายไปเลี้ยง แต่โรงเรียนอิตาลีเมื่อ 500 ปีก่อนไม่อนุญาติให้ลูกนอกสมรสเข้าเรียน ปู่จึงต้องหาครูพิเศษรวมทั้งขอให้พระสอนหนังสือให้ แต่คนที่เลี้ยงเลโอนาร์โดอย่างใกล้ชิดนั้นคืออาหนุ่มผู้มีนิสัยสุภาพอ่อนโยน อาฟรานเชสโกรักหลานคนนี้มาก อาทำหน้าที่ดูแลฟาร์มและไร่องุ่นของคุณปู่จึงพาเลโอนาร์โดไปแทบทุกที่ทำให้เลโอนาร์โดซึมซับธรรมชาติ และรักมันไปจนตาย

            ในสมัยนั้นอาชีพที่มีเกียรติคือแพทย์ นักกฎหมาย ทหารเนื่องจากลูกนอกสมรสไม่มีสิทธิเข้าเรียนมหาวิทยาลัย จึงทำได้เพียงแต่สอนให้อ่อนออกเขียนได้ และคณิตศาสตร์เล็กๆน้อย แต่ถึงกระนั้นครูทุกคนที่มาสอนเลโอนาร์โดก็ทึ่งในความฉลาดของเขา เขาเรียนทุกอย่างได้รวดเร็ว ช่างสักเกต ขี้สงสัย และมักจะมีคำถามแปลกๆเสมอจนครูต้องปวดหัวอยู่ตลอดเวลา
แต่เป็นโชคดีของเจ้าหนูเลโอนาร์โดคือคุณครูที่สอนเขานั้นไม่ได้เข้มงวดกับเขาอยู่ตลอดเวลา และตามภาษาเด็กในวัยนั้นย่อมซนย่อมอยากรู้อยากเห็น และรักการผจญภัย เขาจึงมีเวลาเล่นมากกว่าเรียน สิ่งที่เลโอชอบคือการเที่ยวสนุกตามสวนตามป่า สังเกตต้นไม้ใบหญ้า รวมทั้งสัตว์นานาชนิด และวาดรูปเก็บไว้มากกมาย

            หลายคนคงรู้เรื่องเกี่ยวกับแบบแปลนเครื่องบิน ของโลโอนาร์โดในตอนโตเป็นผู้ใหญ่ แต่ความหลงใหลในการบินของเขานั้นเกิดขึ้นเมือตอนยังเด็กในตอนที่เขาเล่นว่าวไปตามสายลมและหลงรักนก ทำให้เป็นแรงบันดาลใจของเลโอที่ถูกเก็บไว้เป็นแรกผลักดันให้เขาอยากล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า ซึ่งเป็นผลให้เกิดเฮลิคอปเตอร์ในยุคปัจจุบันโดยมีต้นแบบมาจากภาพร่างของเลโอนาร์โดในสมัยที่เขาสนใจในด้านวิศวกรรม

            แม้จะเป็นคนที่มีการวาดภาพเป็นเลิศ แต่เลโอนาร์โดกลับเขียนหนังสือแปลกประหลาด เนื่องจากไม่มีครูคนไหนบังคับให้เลโอเขียนได้อย่างถูกต้อง เขาจึงเขียนหนังสือแบบส่องกระจกโดยอ้างว่ามันสะดวกดี บันทึกนับหมื่นหน้าของเขายังคงหลงเหลืออยู่แก่ชนรุ่นหลัง ส่วนใหญ่เป็นการเขียนแบบส่องกระจกทั้งนั้น ยกเว้นแต่จดหมายที่เลโอเขียนถึงคนอื่นๆ

Andrea del Verrocchio, Leonardo da Vinci - Baptism of Christ - Uffizi.jpg
เทวดาริมซ้ายสุด
            นับเป็นโชคดีอีกครั้งของเลโอนาร์โด เนื่องจากความที่เจ้าหนูเป็นลูกน้องสมรสซึ่งควรจะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาของเด็กทุกคนในสมัยนั้น แต่กลับเป็นประโยชน์ต่อเลโอ เพราะพ่อของเขานั้นยอมให้เขาเรียนศิลปะ ซึ่งไม่ต่างกับการเป็นกรรมกรมากในสัยตาของคนอิตาเลียนในยุคนั้น เมื่อเขาได้โตขึ้น อายุ 15 ขวบ พ่อของเลโอได้ฝากเขาให้กับอองเดรีย เวอร์รอกคิโอ ศิลปินใหญ่คนหนึ่งในเมืองฟลอเรนซ์  นักศิลปะในยุคนั้นจะต้องเริ่มจากการรับใช้ครูและรุ่นพี่ทำความสะอาด ขัดพื้น และงานบ้านทั่วไป รวมไปถึงการเตรียมผ้าใบ แต่ก็ยังพอมีเวลาฝึกวาดรูปไปด้วย

            เมื่อลูกศิษย์ฝึกฝนจนมีฝีมือแล้ว บรรดาศิลปินมีชื่อมักเลือกให้ลูกศิษย์เก่งๆ ช่วยวาดหรือลงสีให้ในภาพใหญ่ของตนเอง แต่เมื่อเลโอนาร์โดช่วยวาดรูปเทวดาให้ในภาพเขียนของเขา เวอร์รอกคิโอตกใจในฝีมืออันล้่ำเลิศของลูกศิษย์จนไม่ยอบจับพู่กันอีกเลยชั่วชีวิต จึงเป็นเหตุผลให้ เลโอนาร์โด ดา วินชี กล่าวไว้ในจดหมายว่า " จะมีประโยชน์อะไร ถ้าหากศิษย์ไม่เก่งกว่าครู "แต่จากภาพนั้นเราจะเห็นได้ว่ารูปนางฟ้าองค์หนึ่ง ทางริมซ้ายสุดเป็นฝีมือที่แตกต่างกับรูปอื่นในภาพอย่างเห็นได้ชัด

            อย่างที่กล่าวมาตอนเริ่มต้นว่าเลโอนาร์โดมีความสามารถและเชี่ยวชาญในแทบทุกด้าน นอกจากนั้น เขายังมีข้อคิดเห็นต่างๆ เกี่ยวกับความรู้ทางด้านกายวิภาต ภูมิวิทยา เขารู้เรื่องทฤษฎีของความเป็นสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตต่างๆได้เป็นอย่างดี นอกจากโน๊ตต่างๆแล้ว เขายังมักจะวาดภาพประกอบให้เห็นชัดเจนอีกด้วย

จากเรื่องราวทั้งหมดสิ่งที่ทำให้เลโอนาร์โดเป็นอัจฉริยะนั้นปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคือพรสวรรค์ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญนั้นคือสภาพแวดล้อม การที่เลโอนาร์โดเป็นบุตรนอกสมรสเป็นข้อเสียและปมด้อย ส่งผลให้เลโอนาร์โด หาจุดเด่นขึ้นมากลบปมด้อยลงไปโดยเรื่องของธรรมชาติและการวาดภาพ การที่เลโอนาร์โดวาดรูปธรรมชาติต่างๆไว้จำนวนมาก ส่งผลให้เขานั้นรักและหลงใหลในการวาดภาพ และฝึกหัดตัวเองจนมีฝีมือ ถ้าถามผมว่าอะไรทำให้เลโอนาร์โดเป็นคนที่อัจฉริยะถึงขนาดนี้ คำตอบนั้นคงเป็นอะไรไม่ได้นอกจากความหลงใหล และความรัก ถ้าหากเรารักในสิ่งที่ทำและหลงใหลในสิ่งที่ทำ และเราทำมันไปเรื่อยๆ ฝึกฝนไปเรื่อยๆ เราย่อมเป็นอัจฉริยะในด้านนั้นอย่างแน่นอน
"ธรรมชาติเป็นครูที่ฉลาดที่สุดที่มนุษย์พึงจะมีได้ " Leonardo Da Vinci

สามารถอ่านบทความอื่นเพิ่มเติมจากลิ้ง สารบัญ 

ความคิดเห็น