พฤติกรรมด้านลบของมนุษย์และ Social media

            พวกเราเคยสักเกตกันหรือเปล่าว่า เวลาที่เราอ่าน Comment ใน Social Media อย่าง Facebook เรามักจะพบเห็นความดิบ ความเถื่อน ความรุนแรง ความโหดร้าย ในเนื้อหาข้อความ สิ่งนั้นเราอยากจะเสนอว่ามันคือสัญชาตญาณดิบในตัวเรา ซึ่งในทางจิตวิเคราะห์  เราเรียกว่า Id ซึ่งเป็นส่วนที่จะทำให้มนุษย์แสดงสัญชาตญาณดิบของตนเองออกมา เช่น ความโกรธ ความรุนแรง ความต้องการทางเพศ เพื่อให้ Ego ซึ่งหมายถึงอัตตา หรือตัวเรา พิจารณาว่าเราจะแสดงสิ่งเหล่านี้ออกมาในทางพฤติกรรมหรือไม่ โดยที่มี Superego ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้มนุษย์แสดงพฤติกรรมที่อยู่ในจารีต ประเพณี ค่านิยม สิ่งที่สังคมยอมรับ (เนื้อหา Id Ego Superego สามารถกดคลิกเข้าไปอ่านอย่างละเอียดได้ตรงนี้)


            Ego หรือตัวเราเองจะต้องเลือกที่จะแสดงพฤติกรรมที่ดิบ หรือจะแสดงพฤติกรรมที่สอดคล้องกับค่านิยมของสังคมออกมา ดังนั้นในสถานการณ์ทั่วไปที่อยู่ในสังคมที่พบเจอหน้าคร่าตากัน คนเรามักจะแสดงพฤติกรรมในสอดคล้องกับค่านิยม (ตาม Superego) เช่น การทำตัวสุภาพ พูดจาเรียบร้อย ไพเราะ กับผู้คนรอบข้าง หรือโดยเฉพาะกับผู้ใหญ่ และจะมีโอกาสน้อยมากที่จะเห็นบุคคลทั่วไปพูดจาไม่สุภาพกับผู้คนรอบข้าง หรือผู้ใหญ่ (ในบริบทที่ปกติทั่วไป)

            เนื่องจากสังคมเห็นหน้าคร่าตาเรา สังคมรู้ว่าเราเป็นใคร หรือบุคคลเหล่านั้นรู้จักกับเรา ซึ่งหาเราแสดงพฤติกรรมที่ไม่ดี หรือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เป็นที่ต้องการของสังคมออกไป สังคมจะไม่ยอมรับ หรือสังคมอาจจะลงโทษเรา บุคคลรอบตัวอาจไม่พอใจ หรือเกลียดเรา เราจึงมักจะแสดงตัวตนตามที่สังคมยอมรับ เช่น แต่งตัวสุภาพ พูดจาสุภาพ ยิ้ม ทำตัวร่าเริง หรือในบางกรณีอาจทำตัวที่คนทั่วไปมักพูดกันว่า "ตอแหล" หรือ "เสแสร้ง"

            Social media เป็นสังคมที่เราไม่ต้องแสดงตัวตนออกมา ในสมัยก่อน Social media จะเป็นพวก Pantip ที่เราสามารถปกปิดตัวตนของเราและเข้าไป Comment ด้วยวาจาอย่างไรก็ได้ Social media ในปัจจุบันอย่าง Facebook ถึงแม้จะมีการเปิดเผยตัวเอง ใช่ชื่อจริง นามสกุลจริง สามารถติดตาม และทำความรู้จักได้ ไม่เหมือนกับสมัยก่อนที่เป็นกระทู้ แต่ก็ยังสามารถปรับ Setting ให้คนที่ไม่ใช่เพื่อนไม่สามารถเข้าดูโปรไฟล์ได้อย่างเต็ม 100% หรือในบางกรณีสามารถทำเฟสแบบอวตารเข้าไป Comment ตาม Page ต่าง ๆ ได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่เรามักพบเห็น Comment ที่มีลักษณะ Bully หรือการลังแกกันผ่าน Social media ซึ่งเราเรียกกันในปัจจุบันว่า Cyber bully

            Cyber bully หมายถึงการลังแกผ่านโลก Digital หรือ Online การลังแกนั้นรวมไปถึงการด่าว่า การซ้ำเติม เหยียบย้ำ การใช้ท้อยคำที่กระทบถึงจิตใจ หรือการทำร้ายจิตใจ ทั้งโดยเจตนา และไม่เจตนา เนื่องจากการที่จะถูก Bully นั้นขึ้นอยู่กับทัศนคติของบุคคลที่ถูกกระทำ ดังนั้นพฤติกรรมที่ส่อไปในทางลังแกกันทางจิตใจจึงมีเส้นแบ่งที่บาง และมีขอบเขตที่กว้าง ระหว่างการวิจารณ์ เช่น คำว่ารูปร่างอ้วน เตี้ย โง่ บางบุคคลอาจไม่ได้กระทบอะไร แต่บางคนอาจส่งผลให้เกิดบอบช้ำทางจิตใจได้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ที่ผ่านมาในอดีต  ดังนั้นขอบเขตของการลังแกกันจึงกว้างมาก ขอบคลุมไปถึงการวิจารณ์บางอย่างไปด้วย

                ใน Facebook เรามักจะพบเห็นผู้คนกระหน่ำวิจารณ์ ต่อว่าด่าทอกันและกันอย่างง่ายดาย ที่เราเรียกกันว่า "นักเลงคีบอร์ด" เหตุผลของพฤติกรรมเหล่านั้นผมคิดว่ามาจากประเด็นทางปรัชญา และจิตวิทยา ในประเด็นทางปรัชญานั้นมาจากบทสนทนาในหนังสือของเพลโตชื่อ รีพับลิก ในตอนที่ว่าด้วยเรื่อง แหวนแห่งไกกีส เป็นแหวนวิเศษที่เพียงหมุนที่หัวแหวน ก็สามารถทำให้ผู้สวมหายตัวไปได้ จึงเป็นคำถามที่ว่าหากบุคคลที่ล่องหนแสดงสัญชาตญาณดิบออกมามากแค่ไหน ซึ่งสอดรับกับแนวคิดที่ได้กล่าวมาข้างต้นเกี่ยวกับโครงสร้างบุคลิกภาพทางจิตวิเคราะห์ที่ประกอบไปด้วย Id Ego Superego หากเราล่องหน หรือไม่ได้แสดงตัวออกมา 

            เราจะไม่จำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามค่านิยมทางสังคม ถึงแม้ว่า Social media ในปัจจุบันจะไม่เป็นส่วนตัวเสมอไป แต่บุคคลที่เราด่าทอ วิจารณ์ เป็นสังคมที่ไม่ใช่สังคมที่อยู่รอบตัวเรา กล่าวคือมันไกลตัวเรา บุคคลจึงแสดงความมืดมิดในตัวมนุษย์ออกมาได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องคำนึงถึง Superego แต่สำหรับคนบางคน อาจตระหนักถึงความถูกต้อง ความเห็นอกเห็นใจ เขาเหล่านั้นจึงเลือกที่จะไม่แสดงสัญชาตญาณเหล่านั้นออกมา แต่ก็เป็นส่วนน้อยเท่านั้น

            ประเด็นสุดท้าย แน่นอนทุกคนมีสัญชาตญาณดิบที่อยากจะแสดงความคิดเห็นที่รุนแรง ความโกรธ ออกมา แต่เราจะไม่ได้แสดงออกมาหากไม่มีคนอื่น ๆ แสดงออกมาด้วย เราเรียกการขับเคลื่อนนี้ว่า การคล้อยตาม เป็นแนวคิดทางจิตวิทยาที่มีอิทธิพลสูงมาก กล่าวคือเรามักจะคล้อยตามความคิดของผู้อื่น แม้เราจะรู้ว่ามันเป็นความคิดที่ผิดก็ตาม ดังนั้นเมื่อมีคนออกมาแสดงสัญชาตญาณดิบอย่างเต็มที่ ก็จะส่งอิทธิพลต่อคนที่เห็น แสดงออกด้วยความรุนแรง ความโกรธเช่นเดียวกัน ซึ่งเรามักจะพบเห็นกันอย่างง่ายดายในปัจจุบัน บางรายถึงกับโดนล่าแม่มด ต้องหมดอนาคต ต้องฆ่าตัวตาย หรือไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมได้อีกต่อไป เป็นเรื่องน่าเศร้ามากในสังคมของเรา

            ด้วยกลไกที่กล่าวมาทั้งหมด จึงส่งผลให้การ Bully เป็นปัญหาที่เลวร้ายในสังคมอย่างมาก วิธีแก้ปัญหาของเรื่องนี้ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกไปจากการสร้างความตระหนักถึงปัญหาเหล่านั้น เราต้องรู้จักตั้งคำถามกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น เช่น "หากเราเป็นคนคนนั้นเราจะรู้สึกอย่างไร" "หากเราทำแบบนั้นจะส่งผลอย่างไรบ้าง"หากเราเห็นอกเห็นใจมากขึ้น มีความฉลาดคิด ฉลาดถามมากขึ้น เราก็จะเป็นคนที่แตกต่าง ไม่โดนคล้อยตามอะไรง่าย ๆ สังคมของเราต้องการคนตั้งคำถาม เห็นอกเห็นใจ และคนที่แตกต่าง เราสามารถเริ่มได้จากตอนนี้
"พูดให้ดีขึ้น ไม่ใช่พูดให้ดังขึ้น สิ่งที่ทำให้ดอกไม้เจริญเติบโตคือฝนไม่ใช่เสียงฟ้าผ่า" Jalal ad-Din Rumi

อ้างอิง

คาลอส บุญสุภา. (2560). Id Ego และ Superego ทฤษฎีโครงสร้างบุคลิกภาพ. https://sircr.blogspot.com/2017/12/id-ego-superego-sigmund-freud.html 

ความคิดเห็น