การไม่สามารถชำระเงินตามกำหนดเวลาอาจทำให้ผู้บริโภคต้องเผชิญกับการถูกติดตามหนี้ และเป็นหนี้สินที่สะสมยาวนาน ทำให้เกิดความเครียดและความกังวลอย่างต่อเนื่อง
สิ่งที่ผมมักพบเห็นในแอปพลิเคชันต่าง ๆ ในการจ่ายเงินหรือแหล่งช้อปปิ้งออนไลน์ต่าง ๆ ก็คือการบริการ "ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง" (Buy Now, Pay Later - BNPL) ทำให้ผมสนใจเรื่องนี้และพยายามไปศึกษาเพิ่มเติมจนพบว่าบริการดังกล่าวเป็นเรื่องปกติที่ใช้กันในยุคดิจิทัล เพราะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าทันทีและชำระเงินในภายหลัง บริการนี้สะดวกและเพิ่มความสามารถในการซื้อสินค้าของผู้บริโภค
แต่สิ่งที่ทุกคนไม่รู้ก็คือการบริการซื้อก่อน จ่ายทีหลัง มีผลกระทบเชิงลบต่อสุขภาพจิตอย่างมาก และมีงานศึกษาวิจัยทางจิตวิทยามาสนับสนุน ผมจึงอยากนำเสนอบทความนี้เพื่อให้ผู้อ่านเห็นผลกระทบเชิงลบที่มีต่อสุขภาพจิตของการบริการดังกล่าว รวมไปถึงข้อแนะนำในการจัดการความสะดวกสบายที่มาพร้อมกับความเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การเกิดหนี้สะสมและปัญหาสุขภาพจิตนี้
ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น
ในปัจจุบันหนี้ครัวเรือนในประเทศไทยมีระดับสูงถึง 90.6% ของ GDP และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 91.4% ภายในสิ้นปี 2024 โดยยอดหนี้ทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 16.9 ล้านล้านบาท สถานการณ์นี้ทำให้ครัวเรือนมีความสามารถในการใช้จ่ายและออมน้อยลง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) และเพิ่มภาระทางการเงินในการสนับสนุนมาตรการบรรเทาหนี้ของรัฐบาล
การไม่สามารถชำระเงินตามกำหนดอาจนำไปสู่ค่าปรับและดอกเบี้ยที่สูง ซึ่งเป็นปัจจัยที่เพิ่มภาระหนี้ในครัวเรือน ผลกระทบเชิงลบนี้สอดคล้องกับสถานการณ์หนี้ครัวเรือนในประเทศไทยที่มีระดับสูงและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) การใช้ BNPL โดยไม่มีการวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ อาจทำให้ผู้บริโภคตกอยู่ในวงจรหนี้ที่ยากจะหลุดพ้น ส่งผลให้เกิดความเครียดและปัญหาสุขภาพจิตตามมาโดยรวม (Money and Mental Health Policy Institute, 2021; Citizens Advice, 2021)
ผลกระทบต่อสุขภาพจิต
คำว่าสุขภาพจิตมีความหมายค่อนข้างกว้าง ซึ่งจากงานวิจัยได้ยกตัวอย่างผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจด้านการเงินเอาไว้ เช่น อาการหุนหันพลันแล่น การสูญเสียความจำ และความยากลำบากในการจัดการ อาจพบว่าการจัดการการเงินและการชำระเงินเป็นเรื่องยากลำบาก ทำให้มีโอกาสสูงที่จะไม่สามารถชำระเงินตรงเวลาและเกิดหนี้สะสม การขาดการควบคุมการใช้จ่ายนี้สามารถส่งผลให้ปัญหาสุขภาพจิตที่มีอยู่แย่ลง (Citizens Advice, 2021)
การใช้ BNPL สามารถกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมการซื้อแบบทันที (Impulse buying) และการซื้อแบบบังคับ (Compulsive buying) ซึ่งเป็นผลเสียต่อสุขภาพจิต เนื่องจากทำให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็นและเกินความสามารถในการจ่ายของตนเอง โดยเฉพาะการซื้อแบบทันทีสามารถนำไปสู่การเสพติดการใช้จ่ายและปัญหาทางการเงินที่ไม่คาดคิด (Raj et al., 2024)
การใช้ BNPL กระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมการซื้อแบบทันทีและการซื้อแบบบังคับ ซึ่งเป็นผลเสียต่อสุขภาพจิต |
นอกจากนั้นการไม่สามารถชำระเงินตามกำหนดเวลาอาจทำให้ผู้บริโภคต้องเผชิญกับการถูกติดตามหนี้ และเป็นหนี้สินที่สะสมยาวนาน ทำให้เกิดความเครียดและความกังวลอย่างต่อเนื่อง และอาจส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตที่รุนแรงขึ้น เช่น ภาวะซึมเศร้าหรือการคิดฆ่าตัวตาย การถูกติดตามหนี้และความกังวลเกี่ยวกับสถานะการเงินสามารถเพิ่มความเครียดและส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตในระยะยาวได้ (Money and Mental Health Policy Institute, 2021)
แนวทางเพื่อจัดการบริการ BNPL
เพื่อป้องกันผลกระทบทางลบต่อสุขภาพจิตจากการใช้บริการ BNPL เราสามารถปฏิบัติตามแนวทางดังต่อไปนี้ได้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น