วิเคราะห์และแปลเพลง Save Myself - Ed Sheeran

สักวันหนึ่งชีวิตจะผลักให้เราล้มลง แล้วก็มักจะไม่มีใคร 
อยู่ตรงนั้นเพื่อเรา แม้เราจะช่วยเหลือหรือเป็นที่พึ่ง 
ให้คนอื่นมามากแค่ไหนก็ตาม

            ความรักเป็นสิ่งที่แสนวิเศษที่เรามอบให้กัน ความรักสร้างสิ่งมหัศจรรย์มากมาย ทำให้คนเติบโตและเข้มแข็งขึ้น ความรักมีทั้งการให้และการรับ มันสามารถเกิดขึ้นได้โดยง่ายและบางครั้งมันก็เกิดขึ้นอย่างยากเย็น แต่ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว เราก็ได้หลายสิ่งหลายอย่างจากการมีความรักเสมอ อย่างไรก็ตามเราไม่เคยลืมที่จะรักคนอื่น แต่มักลืมที่จะ "รักตัวเอง" ทั้ง ๆ ที่ตัวเราเองนี้แหละที่เป็นเพื่อนที่จริงใจที่สุดสำหรับเรา 

            บนโลกใบนี้มีเพลงที่มีเนื้อหางดงามมากมาย เพลง Save Myself ที่ขับร้องโดย Ed Sheeran เจ้าของผลงานเพลงดังมากมาย และกวาดรางวัลมากมายมหาศาล เพลงนี้เป็นหนึ่งในเพลงเหล่านั้น เป็นเพลงรักที่จะสอนให้เรารู้จักรักตัวเองมากยิ่งขึ้น  เพลงนี้เป็นเพลงสุดท้ายในอลบั้ม Divide เนื้อหาของเพลงนี้เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย เป็นคำแนะนำที่สำคัญในการดำเนินชีวิตได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะคนที่ทุ่มเทเพื่อคนอื่นมากเกินไป จนหลายครั้งเราลืมมองความรู้สึกของตัวเอง

Ed Sheeran - Save Myself

เนื้อเพลงและคำแปล

I gave all my oxygen to people that could breathe 

I gave away my money and now we don't even speak 

I drove miles and miles, but would you do the same for me? 

Oh, honestly? 

Offered off my shoulder just for you to cry upon 

Gave you constant shelter and a bed to keep you warm 

They gave me the heartache and in return I gave a song 

It goes on and on

ผมได้มอบอากาศหายใจทั้งหมดต่อผู้คน เพื่อให้พวกเขาสามารถหายใจได้

ฉันได้มอบเงินของฉันและตอนนี้ พวกเราก็ไม่แม้แต่จะพูดกัน

ฉันขับรถไปไมล์แล้วไมล์เล่า แต่คุณจะทำแบบเดียวกับฉันไหม

ช่วยตอบอย่างซื่อสัตย์นะ

ฉันใช้ไหล่ของฉัน เพื่อที่จะให้คุณซบเวลาคุณร้องไห้

ให้ที่พักพิงอันมั่นคงกับคุณ และเตียงนอน เพื่อให้คุณอบอุ่น

พวกเขาเคยทำให้ฉันใจสลาย และย้อนกลับมากลายเป็นเพลงให้กับฉัน

มันมักจะเป็นแบบนี้เสมอไป

Life can get you down so I just numb the way it feels 

I drown it with a drink and out of date prescription pills 

And all the ones that love me they just left me on the shelf 

No farewell 

So before I save someone else, I've got to save myself

ชีวิตสามารถทำให้เรารู้สึกแย่ ดังนั้นฉันจึงด้านชากับความรู้สึกไปแล้ว

ฉันย้อมใจด้วยเหล้าและยาที่หมดอายุ

และเหล่าคนที่รักฉัน ก็กลับทิ้งฉันเอาไว้

โดยไม่บอกลากัน

ดังนั้นก่อนที่ฉันจะช่วยเหลือใคร ฉันควรจะดูแลตัวเองก่อน

I gave you all my energy and I took away your pain 

Cause human beings are destined to radiate or drain 

What line do we stand upon cause from here it looks the same? 

And only scars remain

ฉันมอบพลังงานทั้งหมดของฉันให้กับคุณ และฉันช่วยทำให้ความเจ็บปวดของคุณจางหายไป

เพราะมนุษย์เรา ถูกออกแบบมาให้ต้องแสดงความรู้สึก หรือหมดแรง

เส้นทางไหนที่เรากำลังยืนอยู่ เพราะจากตรงนี้มันดูเหมือนกันหมดเลย

และเหลือไว้เพียงรอยแผลเป็นเท่านั้น

Life can get you down so I just numb the way it feels 

I drown it with a drink and out of date prescription pills 

And all the ones that love me they just left me on the shelf 

No farewell 

So before I save someone else, I've got to save myself

ชีวิตสามารถทำให้เรารู้สึกแย่ ดังนั้นฉันจึงด้านชากับความรู้สึกไปแล้ว

ฉันย้อมใจด้วยเหล้าและยาที่หมดอายุ

และเหล่าคนที่รักฉัน ก็กลับทิ้งฉันเอาไว้

โดยไม่บอกลากัน

ดังนั้นก่อนที่ฉันจะช่วยเหลือใคร ฉันควรจะดูแลตัวเองก่อน

But if don't 

Then I'll go back 

To where I'm rescuing a stranger 

Just because they needed saving just like that 

Oh, I'm here again 

Between the devil and the danger 

But I guess it's just my nature 

My dad was wrong Cause I'm not like my mum 

Cause she'd just smile and I'm complaining in a song 

But it helps 

So before I save someone else

I've got to save myself

แต่หากฉันไม่ทำแบบนั้น

หลังจากนั้นฉันคงต้องกลับไป

ในที่ที่ฉันช่วยเหลือคนแปลกหน้า

แค่เพราะพวกเขาต้องการความช่วยเหลือ

ฉันกลับมายืนในจุดเดิมอีกครั้ง

ตรงกลางระหว่างปีศาจร้ายและความอันตราย

แต่ฉันคิดว่ามันคงเป็นธรรมชาติของตัวฉันเองนี้แหละ

พ่อของฉันคิดผิด เพราะฉันไม่ได้เหมือนกับแม่

เพราะแม่มักจะแค่ยิ้ม แต่ฉันจะเอาไปบ่นลงในเพลง

แต่มันก็ช่วยได้นะ

ดังนั้นก่อนที่ฉันจะช่วยเหลือคนอื่น ๆ

ฉันควรจะดูแลตัวเองก่อน

Life can get you down so I just numb the way it feels 

I drown it with a drink and out of date prescription pills 

And all the ones that love me they just left me on the shelf 

No farewell 

So before I save someone else, I've got to save myself 

And before I blame someone else, I've got to save myself 

And before I love someone else, I've got to love myself

ชีวิตสามารถทำให้เรารู้สึกแย่ ดังนั้นฉันจึงด้านชากับความรู้สึกไปแล้ว

ฉันย้อมใจด้วยเหล้าและยาที่หมดอายุ

และเหล่าคนที่รักฉัน ก็กลับทิ้งฉันเอาไว้

โดยไม่บอกลากัน

ดังนั้นก่อนที่ฉันจะช่วยเหลือใคร ฉันควรจะดูแลตัวเองก่อน

และก่อนที่ฉันจะตำหนิคนอื่น ฉันควรจะดูแลตัวเองก่อน

และก่อนที่ฉันจะรักคนอื่น ฉันควรจะรักตัวเองก่อน

วิเคราะห์เพลง

            อย่างที่ผมเกริ่นไว้ว่าเพลงนี้เหมาะสมกับทุก ๆ คน โดยเฉพาะคนที่ทุ่มเทเพื่อคนอื่นมากเกินไป จนหลายครั้งเราลืมมองความรู้สึกของตัวเอง หลายคนกำลังเผชิญกับสถานการณ์นี้่อยู่ เป็นสถานการณ์ที่เราให้ใจคนอื่นมากเกินไป โดยลืมมองกลับมาที่ตัวเองในระหว่างที่เราช่วยเหลือคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นการให้คำปรึกษา แนะนำ ให้สิ่งของหรือใจมากเกินไป ทำให้เราเผลอไม่ได้ที่จะคาดหวังในตัวคนอื่น แล้วเมื่อไหร่ที่เราคาดหวังในตัวคนอื่นมากเกินไป มันจะกลายเป็นหายนะทันที เพราะเราจะต้องผิดหวังและเสียอย่างแน่นอน

            เพลงนี้เอ็ดพูดถึงความรู้สึกของตัวเองจากท่อน "Life can get you down so I just numb the way it feels" ชีวิตสามารถทำให้เรารู้สึกแย่ ดังนั้นฉันจึงด้านชากับความรู้สึกไปแล้ว จากการที่เขาได้ทุ่มเทใจให้กับคนรอบข้างมากเกินไป จากท่อน "I gave all my oxygen to people that could breathe" ผมได้มอบอากาศหายใจทั้งหมดต่อผู้คน เพื่อให้พวกเขาสามารถหายใจได้ สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกแย่อย่างมาก "I drown it with a drink and out of date prescription pills and all the ones that love me they just left me on the shelf No farewell" ฉันย้อมใจด้วยเหล้าและยาที่หมดอายุ และเหล่าคนที่รักฉัน ก็กลับทิ้งฉันเอาไว้ โดยไม่บอกลากัน จากประสบการณ์นั้นมันได้สอนเขาว่า 

"So before I save someone else, I've got to save myself" ดังนั้นก่อนที่ฉันจะช่วยเหลือใคร ฉันควรจะดูแลตัวเองก่อน

            จากย่อหน้าข้างต้นมันแสดงให้เห็นว่าการที่เขาช่วยเหลือคนอื่นมากจนลืมแคร์ความรู้สึกตัวเอง สอดคล้องกับท่อน "But I guess it's just my nature" แต่ฉันคิดว่ามันคงเป็นธรรมชาติของตัวฉันเองนี้แหละ สิ่งนี้มันทำให้เขา "I'm complaining in a song" ฉันจะเอาไปบ่นลงในเพลง ซึ่งเป็นวิธีระบายความรู้สึกของเขาออกมา อย่างไรก็ตามเขาเข้าใจธรรมชาติของตัวเองที่เอาใจเขามาใส่ใจเรามากเกินไป จนสุดท้ายเอ็ดต้องรู้สึกผิดหวัง เพราะอย่าลืมว่าสักวันหนึ่งชีวิตจะผลักให้เราล้มลง แล้วก็มักจะไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเพื่อเรา แม้เราจะช่วยเหลือหรือเป็นที่พึ่งให้คนอื่นมามากแค่ไหนก็ตาม สิ่งนี้ทำให้เอ็ดได้เรียนรู้ที่จะดูแลตัวเอง และรักตัวเองมากขึ้น

            นอกจากนั้นบทเพลงนี้ยังให้คติสอนใจเราได้เยอะมาก โดยเฉพาะท่อน "Cause human beings are destined to radiate or drain" เพราะมนุษย์เรา ถูกออกแบบมาให้ต้องแสดงความรู้สึก หรือหมดแรง เป็นท่อนที่แสดงออกถึงความเข้าใจมนุษย์อย่างดีเยี่ยม และยังสอดคล้องกับหลักจิตวิทยาอย่างยิ่ง มนุษย์ทุกคนต้องแสดงความรู้สึกออกมา ถ้าเขาเลือกจะไม่แสดงมันออกมา ความรู้สึกเหล่านั้นจะเก็บเอาไว้ข้างใน แล้วสุดท้ายมันก็จะแสดงออกมารูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เอ็ดเลือกการเขียนเพลงเพื่อระบายมันออกมา ซึ่งเราสามารถใช้วิธีเขียนความรู้สึกของตัวเองลงกระดาษก็ได้เหมือนกัน 

            สุดท้ายเพลงนี้ได้ดำเนินมาถึงท่อนสุดท้ายดังเนื้อเพลง "So before I save someone else, I've got to save myself" ดังนั้นก่อนที่ฉันจะช่วยเหลือใคร ฉันควรจะดูแลตัวเองก่อน "And before I blame someone else, I've got to save myself" และก่อนที่ฉันจะตำหนิคนอื่น ฉันควรจะดูแลตัวเองก่อน ซึ่งสุดท้ายก็มาขมวดจบได้อย่างงดงาม "And before I love someone else, I've got to love myself" และก่อนที่ฉันจะรักคนอื่น ฉันควรจะรักตัวเองก่อน 

ไม่ว่าเราจะเป็นคนที่รักและแคร์คนอื่นแค่ไหนก็ตาม 
แต่เราจะต้องเรียนรู้ที่จะรักตัวเองให้ได้
เพราะคนที่จะต้องอยู่เคียงข้างเราไปตลอดชีวิตก็คือตัวเราเองนั้นแหละ

สามารถอ่านบทความอื่นเพิ่มเติมจากลิ้ง สารบัญ

ความคิดเห็น