ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยที่เมื่อครอบครัว
กำลังแตกสลาย เขาจะรู้สึกเสียหลัก
และต้องการอ้อมกอด
ครอบครัวเป็นสถาบันหนึ่งที่สำคัญมากที่สุด เพราะเป็นบ้านหลังแรกที่จะทำให้เด็กพร้อมที่จะเติบโตขึ้นไปเพื่อเผชิญหน้ากับโลกกว้างต่อไปได้ เด็กที่เติบโตมาเป็นคนที่มีความสุข มองโลกในแง่บวก ส่วนใหญ่จะมาจากครอบครัวที่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันและให้ความอบอุ่นแกเขา ในขณะที่เด็กบางคนอาจเติบโตขึ้นมามีภาวะซึมเศร้า มองโลกในแง่ลบ หรือมีความทุกข์ อาจจะมาจากครอบครัวที่ไม่ค่อยอบอุ่นนัก ซึ่งเราทุกคนต่างก็ต้องการอยากสร้างครอบครัวที่อบอุ่น แต่ด้วยปัจจัยหลายอย่างทำให้ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด
มีเพลงหลายเพลงที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์ครอบครัว บ้างก็เป็นเพลงที่บ่งบอกถึงครอบครัวที่อบอุ่น บ้างก็เป็นเพลงที่สะท้อนถึงครอบครัวที่แตกแยก เพลง Unsteady ของวง X Ambassadors ที่มี แซม แฮร์ริส (Sam Harris) เป็นนักร้องนำ เคซีย์ แฮร์ริส Casey Harris มือคีย์บอร์ดที่พิการทางสายตา และแอดัม เลวิน (Adam Levin) มือกลอง ทั้งแซมและเคซี่เป็นพี่น้องกัน ซึ่งเพลงนี้ก็ได้ถูกแต่งขึ้นมาจากเรื่องจริงครอบครัวพี่น้องคู่นี้ โดยสะท้อนถึงความเจ็บปวดและความปรารถนาที่อยากให้ครอบครัวยังอยู่ด้วยกัน
เพลงนี้ถูกปล่อยออกมาตั้งแต่ปี 2015 และออกมาในเวอร์ชั่น The Erich Lee Gravity Remix เพื่อประกอบภาพยนต์เรื่อง Me before you ในปี 2016 ทำให้เพลงนี้โด่งดังอย่างมาก
เนื้อเพลงและคำแปล
Hold, hold on, hold onto me
Cause I'm a little unsteady
A little unsteady
Hold, hold on, hold onto me
Cause I'm a little unsteady
A little unsteady
กอด กอดไว้หน่อย กอดฉันไว้ที
เพราะว่าฉันกำลังเสียหลัก
Approach, appear
And Daddy, I'm alone
Cause this house don't feel like home
แม่ครับ แม่อยู่ไหน
มาหาฉันหน่อย ให้ฉันเห็นหน้าหน่อย
พ่อครับ ฉันรู้สึกโดดเดี่ยว
If you love me, don't let go (hold)
ถ้ายังรักฉันอยู่ อย่าปล่อยฉันไป (กอด)
Cause I'm a little unsteady
A little unsteady
Hold, hold on, hold onto me
Cause I'm a little unsteady
A little unsteady
กอด กอดไว้หน่อย กอดฉันไว้ที
เพราะว่าฉันกำลังเสียหลัก
That you're tired of being alone
Dad, I know you're trying
To fight when you feel like flying
แม่ครับ ฉันรู้
ว่าแม่เหนื่อยกับการต้องอยู่ตัวคนเดียว
พ่อครับ ฉันรู้ว่าพ่อพยายามแล้ว
If you love me, don't let go (hold)
ถ้ายังรักฉันอยู่ อย่าปล่อยฉันไป (กอด)
Cause I'm a little unsteady
A little unsteady
Hold, hold on, hold onto me
Cause I'm a little unsteady
A little unsteady
กอด กอดไว้หน่อย กอดฉันไว้ที
เพราะว่าฉันกำลังเสียหลัก
Cause I'm a little unsteady
A little unsteady
กอด กอดไว้หน่อย กอดฉันไว้ที
เพราะว่าฉันกำลังเสียหลัก
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นเพลงนี้สร้างจากเรื่องจริงของครอบครัวแซมและแคซี่ ในช่วงเวลาที่พ่อแม่เขากำลังจะแยกทางกัน ทำให้เนื้อหาเพลงนี้เศร้าอย่างมาก เพลง Unsteady แม้จะมีเนื้อเพลงสั้น ๆ ความหมายเข้าใจง่าย ไม่จำเป็นต้องตีความอะไรมากมาย แต่ด้วยดนตรีและเสียงร้องของแซม ประกอบกับเสียงโหยหวนของเขา ทำให้เพลงนี้มีพลังและเต็มไปด้วยอารมณ์เศร้าอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งผสมโรงกับการ Remix เสียงใหม่ทำให้เพลงนี้ไพเราะและอลังการมากยิ่งขึ่น อีกทั้งยังเข้าได้ดีกับภาพยนต์ Me before you อีกด้วย
เพลงนี้เกี่ยวกับครอบครัวของ แซมและแคซี่ นักร้องและมือคีย์บอร์ดของวง ทั้งคู่เมื่อยังเป็นเด็กต้องเผชิญกับสถานการณ์ของพ่อแม่ที่กำลังจะแยกทางกัน ซึ่งไม่มีเด็กคนไหนอยากเผชิญกับการแตกแยกอย่างแน่นอน เด็กทุกคนอยากได้อ้อมกอดจากพ่อแม่ เช่นเดียวกับในเนื้อเพลง "Hold, hold on, hold onto me" กอด กอดไว้หน่อย กอดฉันไว้ที ยิ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ช่วงที่เรารู้สึกว่าทุกอย่างไม่มั่นคง มันทำให้เรารู้สึกเสียหลักเหมือนในเนื้อเพลงท่อน "Cause I'm a little unsteady" เพราะว่าฉันกำลังเสียหลัก
ในตอนที่เรายังเป็นเด็กเราจะมีความต้องการได้รับความช่วยเหลือ ต้องการความรัก อยากให้มีครอบครัวมาเติมเต็มความต้องการของตัวเอง ซึ่งหากเติมเต็มได้ก็จะทำให้รู้สึกพึงพอใจและมีความสุขมากขึ้น ทำให้เกิดความเชื่อใจคนอื่นและรู้สึกมั่นคง ในทางตรงกันข้ามหากครอบครัวไม่สามารถเติมเต็มความปรารถนาในแต่ละช่วงวัยได้ก็จะทำให้เราเติบโตไปด้วยมุมมองในแง่ลบและรู้สึกไม่ค่อยมีความสุข จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยที่เมื่อครอบครัวกำลังแตกสลาย เราจะรู้สึกเสียหลักและต้องการอ้อมกอด
เมื่อเรากำลังเผชิญหน้ากับการแตกสลาย เราแทบจะไม่มีทางเข้าใจเลยว่าทำไมทุกอย่างต้องมาเป็นแบบนี้ แต่สิ่งที่พิเศษในเนื้อเพลงนี้ก็คือ "พวกเขาเข้าใจ" ที่มาที่ไปของพ่อและแม่จากเนื้อเพลงท่อน "Mother I know that you're tired of being alone, dad I know you're trying to fight when you feel like flying" แม่ครับ ฉันรู้ว่าแม่เหนื่อยกับการต้องอยู่ตัวคนเดียว พ่อครับ ฉันรู้ว่าพ่อพยายามแล้ว ที่จะยื้อไว้ ถึงแม้ว่าอยากจะปล่อยสักแค่ไหน แสดงให้เห็นว่าแม้ลูกจะเข้าใจเหตุผล แต่ก็ไม่สามารถยอมรับกับครอบครัวที่กำลังแตกแยกนี้ได้ นั้นจึงทำให้เขาพยายามยื้อเอาไว้
"If you love me, don't let go" ถ้ายังรักฉันอยู่ อย่าปล่อยฉันไป แม้สุดท้ายจะล้มเหลวก็ตาม
สุดท้ายสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากบทเพลงนี้ก็คือ แม้พวกเขาทั้งสองเผชิญหน้ากับการแตกแยกของครอบครัว แม้จะพยายามที่จะยื้อความสัมพันธ์ครอบครัวให้คงเดิม แต่พวกเขาทั้งสองก็สามารถข้ามผ่านและยอมรับมันได้ อีกทั้งพวกเขายังเติบโตพัฒนาตัวเองจนมีความสามารถทางด้านดนตรีที่สูงโดยเฉพาะ เคซีย์ แฮร์ริส (Casey Harris) ที่แม้จะพิการทางสายตาแต่ก็สามารถเล่นคีย์บอร์ดได้อย่างเชี่ยวชาญ ทั้งสองต่างก็ใช้บทเรียนในชีวิตมาต่อยอดเป็นบทเพลงที่ซาบซึ้งกินใจ
ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความปรารถนาของลูก
ที่อยากให้ครอบครัวของตัวเองสมบูรณ์
และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
สามารถอ่านบทความอื่นเพิ่มเติมจากลิ้ง สารบัญ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น