บ้านคือที่ที่เราจะได้พักผ่อนทั้งกายและใจ
ไม่ใช่เพียงแค่ที่พักอาศัย
ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใดจึงไม่ใช่สิ่งสำคัญ
ผมเชื่อว่าใครหลายคนเมื่อเติบโตขึ้น ทำงานก็อยากมีครอบครัว และอยากมีบ้านที่อบอุ่นเป็นของตัวเอง พวกเขาเชื่อว่าการมีบ้านจะทำให้ครอบครัวอบอุ่น ยิ่งเป็นบ้านใหญ่โตมีพื้นที่ให้ลูกได้เล่น ได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย รวมไปถึงพื้นที่ที่ครอบครัวจะอยู่ด้วยกันพร้อมหน้า โดยที่เราลืมไปเสียสนิทเลยว่าความสุขที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากบ้าน แต่เป็นความทรงจำและผู้คนที่อยู่เคียงข้าง เพราะแม้ว่าเราจะมีบ้านใหญ่โต มีพื้นที่อำนวยความสะดวกมากมายแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่สามารถให้ความสุขกับเราได้หากขาดคนที่เรารัก
เพลงนี้ชื่อ Home ขับร้องและแต่งโดย กาเบรียลล์ แอปลิน (Gabrielle Aplin) เธอเป็นศิลปินจากประเทศอังกฤษที่มีเสียงร้องไพเราะ ซึ่งเพลงนี้เธอใช้คำว่า "Home" เป็นการแสดงออกถึงการมีบ้านที่อบอุ่น ไม่ใช่เพียงแค่ที่อยู่อาศัยเหมือนกับคำว่า "House" สิ่งที่ต้องการสื่อก็คือ ความสุข ความทรงจำ และคนที่อยู่เคียงข้างต่างหากที่เป็นบ้าน (Home) ดังนั้นไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนก็ตามนั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เธอกล่าวถึงเพลงนี้เอาไว้ว่า "เป็นสิ่งที่ซื่อสัตย์ที่สุดที่ฉันเคยเขียนและบันทึกไว้"
เนื้อเพลงและคำแปล
I'm a phoenix in the water
A fish that's learnt to fly
And I've always been a daughter
But feathers are meant for the sky
So I'm wishing, wishing further
For the excitement to arrive
It's just I'd rather be causing the chaos
Than laying at the sharp end of this knife
ฉันเป็นดั่งนกฟีนิกซ์ที่อยู่ในน้ำ
ปลาที่เรียนรู้เพื่อจะบิน
และฉันเป็นลูกสาวมาตลอด
แต่ขนเหล่านี้มันคู่ควรที่จะอยู่บนท้องฟ้า
ดังนั้นฉันจึงปรารถนา ปรารถนายิ่งขึ้นไปอีก
เพื่อความตื่นเต้นที่จะกำลังจะมาถึง
มันจึงเป็นเพียงแค่การที่ฉันกำลังจะสร้างความโกลาหล
I'll let the waters still
Take me away to some place real
ด้วยทุก ๆ ภัยพิบัติเล็ก ๆ น้อย ๆ
ฉันจะปล่อยให้ฝืนน้ำที่ไหลนิ่ง ๆ นี้
Is where you go when you're alone
Is where you go to rest your bones
It's not just where you lay your head
It's not just where you make your bed
As long as we're together, does it matter where we go?
Home, home Home, home
เพราะเขาว่ากันว่าบ้านคือที่ที่หัวใจของคุณจะได้พักอย่างมั่นคง
คือที่ที่คุณไปเมื่อคุณโดดเดี่ยว
คือที่ที่คุณจะได้พักเมื่อคุณอ่อนล้า
มันไม่ใช่แค่ที่เอนหัวลง
มันไม่ใช่แค่ที่ซุกหัวนอน
ตราบใดที่เรายังอยู่ด้วยกัน มันไม่สำคัญใช่ไหมว่าจะเป็นสถานที่ใด
And my cuts have healed with time
Comfort will rest on my shoulder
And I'll bury my future behind
I'll always keep you with me
You'll be always on my mind
But there's a shining in the shadows
And I'll never know unless I try
ดังนั้นเมื่อฉันพร้อมจะแข็งแกร่งแล้ว
และบาดแผลของฉันก็ได้ถูกเยียวยาไปตามกาลเวลาแล้ว
ปลอบประโลมจะอยู่เหนือบ่าของฉัน
และฉันจะฝังอนาคตของฉันเอาไว้เบื้องหลัง
ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอตลอดไป
เธอจะอยู่ในใจฉันเสมอ
แต่แสงจะส่องสว่างในความมืด
I'll let the waters still
Take me away to some place real
ด้วยทุก ๆ ภัยพิบัติเล็ก ๆ น้อย ๆ
ฉันจะปล่อยให้ฝืนน้ำที่ไหลนิ่ง ๆ นี้
Is where you go when you're alone
Is where you go to rest your bones
It's not just where you lay your head
It's not just where you make your bed
As long as we're together, does it matter where we go?
Home, home Home, home
เพราะเขาว่ากันว่าบ้านคือที่ที่หัวใจของคุณจะได้พักอย่างมั่นคง
คือที่ที่คุณไปเมื่อคุณโดดเดี่ยว
คือที่ที่คุณจะได้พักเมื่อคุณอ่อนล้า
มันไม่ใช่แค่ที่เอนหัวลง
มันไม่ใช่แค่ที่ซุกหัวนอน
ตราบใดที่เรายังอยู่ด้วยกัน มันไม่สำคัญใช่ไหมว่าจะเป็นสถานที่ใด
บ้านที่อบอุ่น
Is where you go when you're alone
Is where you go to rest your bones
It's not just where you lay your head
It's not just where you make your bed
As long as we're together, does it matter where we go?
Home, home Home, home
Home, home Home, home
เพราะเขาว่ากันว่าบ้านคือที่ที่หัวใจของคุณจะได้พักอย่างมั่นคง
คือที่ที่คุณไปเมื่อคุณโดดเดี่ยว
คือที่ที่คุณจะได้พักเมื่อคุณอ่อนล้า
มันไม่ใช่แค่ที่เอนหัวลง
มันไม่ใช่แค่ที่ซุกหัวนอน
ตราบใดที่เรายังอยู่ด้วยกัน มันไม่สำคัญใช่ไหมว่าจะเป็นสถานที่ใด
บ้านที่แสนอบอุ่น
บทเพลงนี้เหมาะกับคนฟังทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นคนที่วิ่งตามหาความฝันและดำเนินชีวิตในแนวทางของตัวเอง วัยรุ่นที่กำลังค้นหาตัวเอง ไปจนถึงคนรักหรือครอบครัวที่อยู่ร่วมกันอย่างอบอุ่น เนื่องจากเนื้อเพลงนี้กำลังนินามคำว่า "Home" ที่แม้จะแปลว่าบ้าน แต่มันแสดงถึงความอบอุ่น ความสุข ความทรงจำ ไม่ใช่เพียงแค่ที่อยู่อาศัยเหมือนกับคำว่า "House" กล่าวคือ หากเรามีความรักที่อบอุ่นต่อกัน แม้จะไม่ได้มีบ้านที่ใหญ่โต ดูน่าอยู่ ดูอบอุ่น แต่มันก็สามารถสร้างความอบอุ่นให้เกิดขึ้นได้หากแต่ละคนมีความรัก และความเข้าใจที่ดีต่อกัน
ที่ผมบอกว่าเพลงนี้เหมาะกับคนที่วิ่งตามหาความฝันของตัวเอง ดำเนินชีวิตในแนวทางของตัวเอง วัยรุ่นที่กำลังค้นหาตัวเอง เพราะว่า เนื้อเพลงนี้ได้เริ่มต้นจากการดิ้นรนจะเป็นตัวของตัวเอง "I'm a phoenix in the water, a fish that's learnt to fly" ฉันเป็นดั่งนกฟีนิกซ์ที่อยู่ในน้ำ ปลาที่เรียนรู้เพื่อจะบิน เป็นเนื้อเพลงนี้สะท้อนถึงความรู้สึกแตกต่างจากสิ่งที่เป็นอยู่ นกควรจะอยู่บนฟ้าไม่ใช่ในน้ำ ท่อนต่อมา "And I've always been a daughter but feathers are meant for the sky" และฉันเป็นลูกสาวมาตลอด แต่ขนเหล่านี้มันคู่ควรที่จะอยู่บนท้องฟ้า สามารถตีความได้ว่า ลูกสาวคนเล็กอาจหมายถึงการเติบโตมาตามความคาดหวัง ไม่ว่าจะเป็นความคาดหวังของครอบครัวหรือสังคม แต่ธรรมชาติของนกมันจะต้องโบยบินหาอิสรภาพของมัน
"For the excitement to arrive, it's just I'd rather be causing the chaos, than laying at the sharp end of this knife" เพื่อความตื่นเต้นที่จะกำลังจะมาถึง มันจึงเป็นเพียงแค่การที่ฉันกำลังจะสร้างความโกลาหล แทนที่จะนอนอยู่เฉย ๆ ให้ปลายของมีดเล่มนี้มันเฉือนชีวิตของฉันไปเรื่อย ๆ เนื้อเพลงดังกล่าวแสดงออกถึงการตัดสินใจว่าจะโบยบินออกไป แม้มันจะสร้างความสับสน ความงงงวย การตั้งคำถามมากมายจากทั้งคนรอบข้างและจากตัวเอง แต่มันก็ดีกว่าจะปล่อยให้มีดแห่งชีวิตเฉือนเราไปเรื่อย ๆ "I'll let the waters still, take me away to some place real"
ฉันจะปล่อยให้ฝืนน้ำที่ไหลนิ่ง ๆ นี้ พาฉันไปยังสถานที่ที่แท้จริงสำหรับตัวฉัน
และก็มาถึงหัวใจของเพลงนี้ "Cause they say home is where your heart is set in stone, is where you go when you're alone, is where you go to rest your bones, it's not just where you lay your head, it's not just where you make your bed, As long as we're together, does it matter where we go?" เพราะเขาว่ากันว่าบ้านคือที่ที่หัวใจของคุณจะได้พักอย่างมั่นคงคือที่ที่คุณไปเมื่อคุณโดดเดี่ยว คือที่ที่คุณจะได้พักเมื่อคุณอ่อนล้า มันไม่ใช่แค่ที่เอนหัวลง มันไม่ใช่แค่ที่ซุกหัวนอน ตราบใดที่เรายังอยู่ด้วยกัน มันไม่สำคัญใช่ไหมว่าจะเป็นสถานที่ใด ทุก ๆ ตัวอักษรสะท้อนเพลงนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม ขอแค่เรามีกันและกัน รักกัน สร้างความทรงจำที่ดีแก่กันไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคู่รักหรือครอบครัวเสมอไป อาจจะเป็นเพื่อนหรือคนรอบข้าง เพราะบ้านคือที่ที่เราจะได้พักผ่อนทั้งกายและใจ ไม่ใช่เพียงแค่ที่พักอาศัย ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใดจึงไม่ใช่สิ่งสำคัญ
อย่างไรก็ตามการที่เราเลือกเดินไปตามเส้นทางแห่งชีวิตของตัวเอง ย่อมทำให้สร้างสับสน งงงวย การตั้งคำถามมากมาย ไปจนถึงความโศกเศร้า "So when I'm ready to be bolder, and my cuts have healed with time, comfort will rest on my shoulder and I'll bury my future behind" ดังนั้นเมื่อฉันพร้อมจะแข็งแกร่งแล้ว และบาดแผลของฉันก็ได้ถูกเยียวยาไปตามกาลเวลาแล้ว ปลอบประโลมจะอยู่เหนือบ่าของฉัน และฉันจะฝังอนาคตของฉันเอาไว้เบื้องหลัง เราไม่รู้สุดท้ายแล้วมันจะออกมาเป็นเช่นไร จะทำสำเร็จหรือไม่ จะมีความสุขหรือไม่ "But there's a shining in the shadows and I'll never know unless I try" แต่แสงจะส่องสว่างในความมืด
และฉันจะไม่มีวันได้รู้
จนกว่าฉันจะได้พยายาม
สามารถอ่านบทความอื่นเพิ่มเติมจากลิ้ง สารบัญ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น