วิเคราะห์และแปลเพลง Numb - Linkin Park

"All I want to do is be more like me,  and be less like you"  
ทุกอย่างที่ฉันต้องการจะทำคือการเป็นตัวเองให้มากขึ้น  
และเป็นเหมือนคุณให้น้อยที่สุด

            การใช้ชีวิตที่ยากที่สุดคือการใช้ชีวิตตามความคาดหวังของคนอื่น ๆ เพราเราทุกคนต่างก็พยายามค้นหาตนเองและแสวงหาความสำคัญและคุณค่าที่แตกต่างไปจากคนอื่น แน่นอนว่าเราอาจมีการชอบตามคนอื่นหรืออยากเป็นแบบคนอื่นบ้าง แต่ลึก ๆ แล้วเราทุกคนอยากมีแบบฉบับเป็นของตัวเอง เราจะภูมิใจมากที่เราได้สร้างสรรค์อะไรก็ตามที่ไม่เหมือนใคร ดังนั้นการที่เราจะต้องใช้ชีวิต การเลือกเรียน ทำงาน ครอบครัว สังคม หรือด้านอื่น ๆ ตามความคาดหวังของผู้อื่นย่อมทำให้เรารู้สึกแย่และอึดอัด

            เพลง Numb เป็นเพลงของวง Linkin Park ขับร้องโดย เชสเตอร์ เบนนิงตัน (Chester Bennington) ผู้จากโลกนี้ไปแล้ว วง Linkin Park เป็นวงดนตรีที่เป็นตำนานมีเพลงมากมายที่โด่งดัง เพลงนี้ใกล้เคียงกับคำว่าสมบูรณ์แบบอย่างมาก ทั้งเนื้อเพลง ดนตรี เสียงร้อง ทุกอย่างต่างสมบูรณ์ไปหมด ซึ่งเนื้อเพลงแสดงออกถึงความรู้สึกที่ต้องอยู่บนความคาดหวังของผู้อื่น ทำให้ชีวิตเหมือนถูกควบคุมเอาไว้ และค่อย ๆ สูญเสียความเป็นตัวเองไป เป็นเพลงที่สอนเกี่ยวกับชีวิตและสะท้อนความรู้สึกของวัยรุ่นได้อย่างยอดเยี่ยม

Linkin Park - Numb

เนื้อเพลงและคำแปล

I'm tired of being what you want me to be 

Feeling so faithless, lost under the surface 

Don't know what you're expecting of me 

Put under the pressure of walking in your shoes

(Caught in the undertow, just caught in the undertow) 

Every step that I take is another mistake to you 

(Caught in the undertow, just caught in the undertow) 

ฉันเหนื่อยล้ากับการเป็นในสิ่งที่คุณต้องการให้ฉันเป็น

รู้สึกสิ้นหวัง เหมือนจมไปใต้ทะเลลึก

ไม่รู้คุณคาดหวังอะไรในตัวฉัน

ถึงได้กดดันฉันให้เดินตามเส้นทางที่คุณวางเอาไว้

(ติดอยู่ในคลื่นใต้น้ำ กำลังติดอยู่ในคลื่นใต้น้ำ)

ทุกย่างก้าวที่ฉันเดิน คือความผิดพลาดในสายตาคุณ

(ติดอยู่ในคลื่นใต้น้ำ กำลังติดอยู่ในคลื่นใต้น้ำ)

I've become so numb, I can't feel you there 

Become so tired, so much more aware

I'm becoming this, all I want to do 

Is be more like me, and be less like you

ฉันกลายเป็นคนด้านชา ไม่รู้สึกถึงตัวตนของคุณ

เริ่มรู้สึกเหนื่อยล้า เต็มไปด้วยความหวาดระแวง

ฉันกลายเป็นสิ่งนี้ ทุกอย่างที่ฉันต้องการจะทำ

คือการเป็นตัวเองให้มากขึ้น และเป็นเหมือนคุณให้น้อยที่สุด

Can't you see that you're smothering me 

Holding too tightly, afraid to lose control? 

Cause everything that you thought I would be 

Has fallen apart right in front of you

(Caught in the undertow, just caught in the undertow)

Every step that I take is another mistake to you 

(Caught in the undertow, just caught in the undertow) 

And every second I waste is more than I can take

คุณไม่เห็นหรือว่า คุณกำลังทำให้ฉันหายใจไม่ออก

บีบฉันจนแน่น กลัวว่าจะควบคุมฉันไม่ได้หรือไง

เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณคิดว่าฉันควรเป็น

มันได้พังทลายไปต่อหน้าต่อตาคุณแล้วไง

(ติดอยู่ในคลื่นใต้น้ำ กำลังติดอยู่ในคลื่นใต้น้ำ)

ทุกย่างก้าวที่ฉันเดิน คือความผิดพลาดในสายตาคุณ

(ติดอยู่ในคลื่นใต้น้ำ กำลังติดอยู่ในคลื่นใต้น้ำ)

และทุกวินาทีที่ฉันเสียไป มันมากเกินกว่าที่ฉันจะรับมันไหว

I've become so numb, I can't feel you there 

Become so tired, so much more aware

I'm becoming this, all I want to do 

Is be more like me, and be less like you

ฉันกลายเป็นคนด้านชา ไม่รู้สึกถึงตัวตนของคุณ

เริ่มรู้สึกเหนื่อยล้า เต็มไปด้วยความหวาดระแวง

ฉันกลายเป็นสิ่งนี้ ทุกอย่างที่ฉันต้องการจะทำ

คือการเป็นตัวเองให้มากขึ้น และเป็นเหมือนคุณให้น้อยที่สุด

And I know 

I may end up failing too 

But I know 

You were just like me with someone disappointed in you

และฉันรู้

ฉันอาจจะจบลงด้วยความผิดพลาด

แต่ฉันรู้ว่า

คุณเหมือนกับฉันที่ใครบางคนก็ผิดหวังในตัวคุณเช่นกัน

I've become so numb, I can't feel you there 

Become so tired, so much more aware

I'm becoming this, all I want to do 

Is be more like me, and be less like you

ฉันกลายเป็นคนด้านชา ไม่รู้สึกถึงตัวตนของคุณ

เริ่มรู้สึกเหนื่อยล้า เต็มไปด้วยความหวาดระแวง

ฉันกลายเป็นสิ่งนี้ ทุกอย่างที่ฉันต้องการจะทำ

คือการเป็นตัวเองให้มากขึ้น และเป็นเหมือนคุณให้น้อยที่สุด

I've become so numb, I can't feel you there 

(I'm tired of being what you want me to be)

I've become so numb, I can't feel you there 

(I'm tired of being what you want me to be)

ฉันกลายเป็นคนด้านชา ไม่รู้สึกถึงตัวตนของคุณ

(ฉันเหนื่อยล้ากับการเป็นในสิ่งที่คุณต้องการให้ฉันเป็น)

ฉันกลายเป็นคนด้านชา ไม่รู้สึกถึงตัวตนของคุณ

(ฉันเหนื่อยล้ากับการเป็นในสิ่งที่คุณต้องการให้ฉันเป็น)

วิเคราะห์เพลง

            มนุษย์ทุกคนใช้เวลาตั้งแต่เกิดจนโตเพื่อค้นหาตัวเอง โดยการสะสมประสบการณ์ลองผิดลองถูก เผชิญกับความผิดพลาด ความทุกข์ รวมไปถึงความสุขและเสียงหัวเราะในชีวิต ทุกอย่างที่เกิดขึ้นจะหล่อหลอมให้เราเป็นตัวของตัวเอง ที่ไม่เหมือนใคร แต่โชคร้ายที่มันไม่ได้ง่ายแบบนั้น เพราะเราใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมทำให้เราทุกคนต่างมีความคาดหวังซึ่งกันและกัน เช่น สังคมคาดหวังให้เด็กเชื่อฟังผู้ใหญ่ ปฏิบัติตัวตามระเบียบ กล่าวคือ ให้เป็นในแบบที่พวกผู้ใหญ่คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง 

            อย่างไรก็ตามความขัดแย้งที่เกี่ยวข้องกับความคาดหวังที่พบมากที่สุดในสังคมก็คือ ความคาดหวังของพ่อแม่ที่มีต่อลูกของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่เพลงนี้และตัว MV ให้ความสำคัญมากที่สุด บทเพลง Numb เป็นเพลงที่สะท้อนความรู้สึกของวัยรุ่นออกมาได้อย่างดีตั้งแต่เริ่มต้นบทเพลง "I'm tired of being what you want me to be, feeling so faithless, lost under the surface" ฉันเหนื่อยล้ากับการเป็นในสิ่งที่คุณต้องการให้ฉันเป็น รู้สึกสิ้นหวัง เหมือนจมไปใต้ทะเลลึก เป็นการบอกเล่าความรู้สึกเหนื่อยล้าและสิ้นหวังต่อความคาดหวังของพ่อแม่ ซึ่งความคาดหวังนั้นไม่เพียงแต่เรื่องอนาคตแต่รวมไปถึงการเป็นตัวของตัวเองด้วย

            หลังจากที่เนื้อเพลงได้แสดงความรู้สึกออกมาตั้งแต่ต้นแล้ว ยังกล่าวถึงสาเหตุอย่างชัดเจนตามมาด้วย "Don't know what you're expecting of me, put under the pressure of walking in your shoes" ไม่รู้คุณคาดหวังอะไรในตัวฉัน ถึงได้กดดันฉันให้เดินตามเส้นทางที่คุณวางเอาไว้ อย่างที่ผมได้กล่าวไปแล้วว่าเราเติบโตมาด้วยการสะสมประสบการณ์เพื่อสร้างอัตลักษณ์ของตัวเองขึ้นมา แต่ในขณะเดียวกันทั้งสังคมและครอบครัวก็มีความคาดหวังกับการแสดงออก ตัวตน และความปรารถนาของเรา มันจึงก่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาในตัวเองและกลายเป็นความรู้สึกเชิงลบขึ้นมา

"Every step that I take is another mistake to you" ทุกย่างก้าวที่ฉันเดิน คือความผิดพลาดในสายตาคุณ

            ความรู้สึกเชิงลบ คือความโกรธ เศร้า กังวล กลัว หรือความทุกข์อื่น ๆ ซึ่งเพลงนี้ได้แสดงความรู้สึกเชิงลบออกมาหลายอย่าง "I've become so numb, I can't feel you there, become so tired, so much more aware, I'm becoming thisฉันกลายเป็นคนด้านชา ไม่รู้สึกถึงตัวตนของคุณ เริ่มรู้สึกเหนื่อยล้า เต็มไปด้วยความหวาดระแวง ฉันกลายเป็นสิ่งนี้ จากเนื้อเพลงดังกล่าวมันแสดงถึงความรู้สึกด้านชา เหนื่อยล้า หวาดระแวง มันคือความทุกข์ที่วัยรุ่นจำนวนมากได้รับจากความคาดหวังของคนรอบตัว 

            ความคาดหวังมีปัจจัยทางจิตวิทยามากมายซ้อนอยู่ แต่โดยส่วนใหญ่เวลาที่พ่อแม่คาดหวังในตัวลูก มันมักจะมาจากมุมมองที่มองว่าลูกเป็นภาพสะท้อนของตัวเอง กล่าวคือการที่พ่อแม่ทำให้ลูกประสบความสำเร็จ มันก็เท่ากับเขาประสบความสำเร็จด้วย หรือในบางกรณีพ่อแม่หลายคนที่ล้มเหลว จึงคิดแบบไม่รู้ตัวว่าหากลูกประสบความสำเร็จก็จะทำให้ทดแทนความล้มเหลวที่เกิดขึ้นของตัวเองได้ ซึ่งในส่วนของเพลงนี้ได้นำเสนอว่า "But I know, you were just like me with someone disappointed in you" แต่ฉันรู้ว่า คุณเหมือนกับฉันที่ใครบางคนก็ผิดหวังในตัวคุณเช่นกัน ซึ่งเป็นการฉายภาพความล้มเหลว ความผิดหวังของตัวเองไปที่ลูกนั่นเอง

            สุดท้ายไม่ว่าเราจะเผชิญความคาดหวังจากครอบครัวหรือสังคมก็ตาม เราก็ต้องเติบโตในทิศทางที่เราเลือกให้ได้ "All I want to do is be more like me, and be less like you" ทุกอย่างที่ฉันต้องการจะทำคือการเป็นตัวเองให้มากขึ้น และเป็นเหมือนคุณให้น้อยที่สุด แม้เราจะล้มเหลว ผิดพลาด ทุกข์บ้าง สุขบ้าง แต่มันก็เป็นชีวิตของเราที่เราจะต้องกำหนดมันด้วยตัวเอง ผมไม่สามารถบอกได้ว่าคนเราเกิดมาเพื่ออะไร อะไรคือความหมายของชีวิต แต่ผมสามารถบอกได้ว่า

หน้าที่ของพวกเราก็คือการสะสมประสบการณ์ 
หลาย ๆ รูปแบบและเติบโตไปในทิศทาง 
ที่เราเลือกด้วยตัวเอง

สามารถอ่านบทความอื่นเพิ่มเติมจากลิ้ง สารบัญ  

ความคิดเห็น