วิเคราะห์และแปลเพลง Six Degrees of Separation - The Script

"คุณกำลังทำทุกอย่างนี้ด้วยความสิ้นหวัง 
 ฝืนยิ้ม และโกหกตัวเอง ว่าคุณกำลังค่อย ๆ ดีขึ้น"

            เราทุกคนเข้าใจกันดีว่าความรักเป็นสิ่งดีที่สุดในชีวิต ช่วงเวลาที่รักใครสักคนและได้รักตอบกลับมามันสุขจนแทบจะไม่สามารถบรรยายออกมาได้ แต่ในทางกลับกันความรักก็สามารถทำร้ายใครสักคนจนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ เพราะความผิดหวังจากความรักมอบความรู้สึกทุกข์ โศกเศร้าเสียใจ 

            เพลง Six Degrees of Separation เป็นเพลงของวงป๊อปร็อค ไอริสชื่อ The Script ขับร้องโดย แดนนี โอ โดโนฮิว (Danny O'Donoghue) เพลงนี้ได้รับแรงบัลดาลใจมาจากทฤษฎีโลกใบเล็ก (Six Degrees of Separation) ที่คิดโดย ฟริเกยส คารินตี (Frigyes Karinthy) นักเขียนชาวฮังการี เมื่อปี ค.ศ.1929 จากนั้นสแตนลีย์ มิลแกรม (Stanley Milgram) นักจิตวิทยาผู้โด่งดังได้นำแนวคิดนี้มาศึกษา และทดลองจนค้นพบว่า คน 2 คน รู้จักผ่านคนกลางเพียง 6 คนเท่านั้น 

            เหตุผลที่แดนนีนำเอาทฤษฎีนี้มาตั้งชื่อเพลง เป็นเพราะเขารู้จักกับแฟนสาวที่คบกัน 4 ปี ผ่านคนไม่ถึง 6 คนตามทฤษฎีนี้เลย แต่สุดท้ายความสัมพันธ์นี้ต้องจบลง เขาเลยนำชื่อทฤษฎีมาเล่นคำ Six Degrees of Separation กลายเป็น 6 ขั้นแห่งการจากลา โดยมีเนื้อหาที่เริ่มตั้งแต่การล้มลงจากความรัก ไปจนถึงบลุกขึ้นมาได้ ซึ่งให้แง่มุมที่พิเศษและน่าสนใจ

The Script - Six Degree of Separation

เนื้อเพลงและคำแปล

You've read the books 

You've watched the shows 

What's the best way no one knows, ye 

Meditate, get hypnotized 

Anything to take it from your mind 

But it won't go, ohhhh ohhh 

You're doing all these things out of desperation 

Ohhh ohhh 

You're going through six degrees of separation

คุณอ่านหนังสือต่าง ๆ

คุณดูรายการต่าง ๆ

ไม่มีใครรู้หรอกว่าวิธีไหนเป็นวิธีที่ดีที่สุด

ฝึกสมาธิ โดนสะกดจิต

อะไรก็ได้ที่เอามันออกไปจากความคิดของคุณ

แต่มันไม่ยอมออกไป

คุณกำลังทำทุกอย่างนี้ด้วยความสิ้นหวัง

คุณกำลังผ่าน หกขั้นตอนของการจากลา

You hit the drink, you take a toke 

Watch the past go up in smoke, ye 

Fake a smile, yeah, lie and say that 

You're better now than ever, and your life's okay 

Well it's not, no 

You're doing all these things out of desperation 

Ohhh ohhh You're going through six degrees of separation 

คุณดื่มเหล้า เมากัญชา

มองดูอดีตที่ลอยไปกับควัน

ฝืนยิ้ม และโกหกตัวเอง

ว่าคุณกำลังค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ และทุกอย่างเป็นปกติดี

แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น

คุณกำลังทำทุกอย่างนี้ด้วยความสิ้นหวัง

คุณกำลังผ่าน หกขั้นตอนของการจากลา

First, you think the worst is a broken heart 

What’s gonna kill you is the second part 

And the third, Is when your world splits down the middle 

And fourth, you’re gonna think that you fixed yourself 

Fifth, you see them out with someone else 

And the sixth, is when you admit that you may have fucked up a little

ลำดับแรก คุณจะคิดว่าสิ่งที่แย่ที่สุดคือการอกหัก

แต่สิ่งที่จะทำให้คุณเจ็บปวดปางตายคือลำดับที่สอง

และลำดับที่สาม คือเมื่อโลกของคุณโดนผ่ากลางแยกออกจากกัน

และลำดับที่สี่ คุณอาจจะคิดว่าตัวคุณเริ่มจะดีขึ้นบ้างแล้ว

ลำดับที่ห้า คุณเห็นคนรักเก่ากับคนอื่น ๆ 

และลำดับที่หก คือเมื่อคุณยอมรับว่าคุณก็อาจจะทำสิ่งที่ผิดพลาดอะไรไปบ้าง

(Oh no there ain't no help, it's every man for himself) 

(No no there ain't no help, it's every man for himself)

ไม่มีใครสามารถช่วยเหลืออะไรได้หรอก นอกจากตัวเราเอง

You tell your friends, yeah, strangers too

Anyone who’ll throw an arm around you, yeah 

Tarot cards 

Gems and stones

Believing all that shit is gonna heal your soul

Well it’s not, no, wohhhh 

You’re only doing things out of desperation

You’re goin’ through six degrees of separation

คุณบอกกับเพื่อน ๆ และคนแปลกหน้าด้วย

ใครก็ตามที่เข้ามาโอบไหล่คุณ

ไพ่ทาโร่

อัญมณี และเพชรพลอย

เชื่อว่าสิ่งพวกนั้นมันจะสามารถเยียวยาจิตใจของคุณได้

แต่มันไม่ใช่เลย มันไม่ได้ช่วยอะไร

คุณกำลังทำทุกอย่างนี้ด้วยความสิ้นหวัง

คุณกำลังผ่าน หกขั้นตอนของการจากลา

First, you think the worst is a broken heart 

What’s gonna kill you is the second part 

And the third, Is when your world splits down the middle 

And fourth, you’re gonna think that you fixed yourself 

Fifth, you see them out with someone else 

And the sixth, is when you admit that you may have fucked up a little

ลำดับแรก คุณจะคิดว่าสิ่งที่แย่ที่สุดคือการอกหัก

แต่สิ่งที่จะทำให้คุณเจ็บปวดปางตายคือลำดับที่สอง

และลำดับที่สาม คือเมื่อโลกของคุณโดนผ่ากลางแยกออกจากกัน

และลำดับที่สี่ คุณอาจจะคิดว่าตัวคุณเริ่มจะดีขึ้นบ้างแล้ว

ลำดับที่ห้า คุณเห็นคนรักเก่ากับคนอื่น ๆ 

และลำดับที่หก คือเมื่อคุณยอมรับว่าคุณก็อาจจะทำสิ่งที่ผิดพลาดอะไรไปบ้าง

No there’s no starting over

Without finding closure, you’d take them back, 

No hesitation, 

That’s when you know you’ve reached the sixth degree of separation 

ไม่มีการเริ่มต้นใหม่อะไรทั้งนั้น

โดยปราศจากการสิ้นสุด คุณจะพาความปวดร้าวนั้นกลับมา

โดยไม่ลังเล

นั้นคือเมื่อคุณรู้ว่าคุณได้เข้ามาสู่หกขั้นตอนของการจากลาแล้ว

No there’s no starting over, 

Without finding closure, you’d take them back, 

No hesitation, 

That’s when you know you’ve reached the sixth degree of separation

ไม่มีการเริ่มต้นใหม่อะไรทั้งนั้น

โดยปราศจากการสิ้นสุด คุณจะพาความปวดร้าวนั้นกลับมา

โดยไม่ลังเล

นั้นคือเมื่อคุณรู้ว่าคุณได้เข้ามาสู่หกขั้นตอนของการจากลาแล้ว

First, you think the worst is a broken heart 

What’s gonna kill you is the second part 

And the third, Is when your world splits down the middle 

And fourth, you’re gonna think that you fixed yourself 

Fifth, you see them out with someone else 

And the sixth, is when you admit that you may have fucked up a little

ลำดับแรก คุณจะคิดว่าสิ่งที่แย่ที่สุดคือการอกหัก

แต่สิ่งที่จะทำให้คุณเจ็บปวดปางตายคือลำดับที่สอง

และลำดับที่สาม คือเมื่อโลกของคุณโดนผ่ากลางแยกออกจากกัน

และลำดับที่สี่ คุณอาจจะคิดว่าตัวคุณเริ่มจะดีขึ้นบ้างแล้ว

ลำดับที่ห้า คุณเห็นคนรักเก่ากับคนอื่น ๆ 

และลำดับที่หก คือเมื่อคุณยอมรับว่าคุณก็อาจจะทำสิ่งที่ผิดพลาดอะไรไปบ้าง

วิเคราะห์เพลง

            การมีความรักเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของชีวิต ในทางตรงกันข้ามช่วงเวลาที่อกหักก็เป็นช่วงเวลาที่ทุกข์มากที่สุดเช่นกัน ซึ่งเพลงนี้ให้แง่คิดที่ดีเกี่ยวกับความรักและการอกหัก ที่ผ่านกระบวนการ 6 ขั้นแห่งการจากลา ซึ่งชื่อเพลงนี้ล้อมาจาก การทดลอง Six Degrees of Separation ที่พบว่า คน 2 คน รู้จักผ่านคนกลางเพียง 6 คนเท่านั้น ดังนั้นผมจึงตีความว่าผู้แต่งคงล้อโดยตรงจากคำว่า Separation ที่แปลได้อีกความหมายว่าการแยกจากกัน เพราะคน 2 คนสามารถรู้จักกันผ่านคนกลางเพียง 6 คนเท่านั้น การแยกจากกันโดยสมบูรณ์ก็ต้องผ่าน 6 ขั้นตอนเช่นเดียวกัน

            วลาที่เราเผชิญกับการอกหัก แต่ละคนจะมีวิธีรับมือที่แตกต่างกันไป บางคนอ่านหนังสือ ดูรายการต่าง ๆ เข้าวัด บางคนไปอยู่กับเพื่อนฝูง ดื่มเหล้า หรือเมาสารเสพติด "What's the best way no one knows" ไม่มีใครรู้หรอกว่าวิธีไหนเป็นวิธีที่ดีที่สุด หลายคนแนะนำว่าต้องพยายามหากิจกรรมอะไรสักอย่างทำเพื่อให้ไม่ว่างคิดจนไม่เป็นอันทำอะไร แต่มันก็ช่วยไม่ได้ "Anything to take it from your mind but it won't go" อะไรก็ได้ที่เอามันออกไปจากความคิดของคุณ แต่มันไม่ยอมออกไป จริง ๆ แล้วมันสามารถช่วยได้ในชั่วขณะหนึ่ง แต่มันก็ไม่สามารถเยียวยาให้เราหลุดพ้นจากสภาพนั้นได้

            "You're doing all these things out of desperation, fake a smile, yeah, lie and say that, you're better now than ever, and your life's okay, well it's not" คุณกำลังทำทุกอย่างนี้ด้วยความสิ้นหวัง ฝืนยิ้ม และโกหกตัวเอง ว่าคุณกำลังค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ และทุกอย่างเป็นปกติดี แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น หลายคนทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อเผชิญกับการอกหัก ไม่ว่าจะเป็นการ ยิ้ม หัวเราะ หรือร่าเริง ซึ่งเป็นการแสดงออกว่าตัวเองเข้มแข็ง แต่จริง ๆ แล้วมันคือการใส่หน้ากากอย่างหนึ่งเพื่อปกปิดความโศกเศร้าในจิตใจ ซึ่งเราจะไม่สามารถหลุดพ้นจากความรู้สึกนี้ได้จนกว่าเราจะผ่านกระบวนการบางอย่างเสียก่อน 

"You're going through six degrees of separation" คุณกำลังผ่าน หกขั้นตอนของการจากลา

            "First, you think the worst is a broken heart, what’s gonna kill you is the second part" ลำดับแรก คุณจะคิดว่าสิ่งที่แย่ที่สุดคือการอกหัก แต่สิ่งที่จะทำให้คุณเจ็บปวดปางตายคือลำดับที่สอง ตอนแรกที่เราอกหัก อย่างแรกเลยเราจะรู้สึกสับสนและพยายามปฏิเสธความจริง เป็นผลมาจากการใช้กลไกป้องกันตนเองเพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวด แต่เมื่อเวลาผ่านไปชีวิตมันก็ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว มันก็จะทำให้เรารู้สึกแย่ โศกเศร้า และเจ็บปวดอย่างมาก "And the third, Is when your world splits down the middle" และลำดับที่สาม คือเมื่อโลกของคุณโดนผ่ากลางแยกออกจากกัน เป็นความรู้สึกโศกเศร้าที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

            "And fourth, you’re gonna think that you fixed yourself, fifth, you see them out with someone else และลำดับที่สี่ คุณอาจจะคิดว่าตัวคุณเริ่มจะดีขึ้นบ้างแล้ว ลำดับที่ห้า คุณเห็นคนรักเก่ากับคนอื่น ๆ หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาอันโศกเศร้ามาแล้ว เราจะเริ่มชินชากับมัน เริ่มสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ หัวเราะและยิ้มแย้มได้โดยไม่ต้องใส่หน้ากาก จนกระทั่งถึงขั้นที่ห้า เป็นช่วงเวลาที่เราตระหนักว่าความรู้สึกของเรายังคงถวิลหาคนรักเก่า เรายังคงคิดถึงอดีต และอยากกลับไปเป็นเหมือนเดิม ซึ่งความรู้สึกจะชัดเจนขึ้นเมื่อเราเจอคนรักเก่าของเรากำลังอยู่กับคนอื่น ไม่ว่าจะตัวเป็น ๆ หรือใน Facebook, Instagram ก็ตาม

            "And the sixth, is when you admit that you may have fucked up a little" และลำดับที่หก คือเมื่อคุณยอมรับว่าคุณก็อาจจะทำสิ่งที่ผิดพลาดอะไรไปบ้าง หลายคนเวลาอกหักจะพยายามใช้กลไกป้องกันตัวเอง โดยใช้ความเกลียดชัง ความโกรธเข้ามาบดบังความโศกเศร้า หรือกลบเกลื่อนรายละเอียดบางอย่างที่อาจจะเป็นสาเหตุให้ความสัมพันธ์ยุติ เพราะไม่มีการเลิกราไหนที่จะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดแค่ฝ่ายเดียวแบบ 100% เสมอไป แม้แต่เราเองที่อกหักก็อาจจะทำอะไรผิดได้เช่นเดียวกัน ซึ่งในขั้นที่หกจะเป็นช่วงเวลาที่เราได้พบรายละเอียดบางอย่าง ทำให้เราเข้าใจความจริงอย่างแจ่มชัดมากขึ้น จากนั้นเราก็จะได้เรียนรู้ จนสามารถก้าวต่อไปและเริ่มต้นใหม่ได้ กล่าวคือ การจะสามารถเริ่มต้นใหม่ เราจะต้องพบกับจุดสิ้นสุดของทั้ง 6 ขั้นแห่งการจากลาเสียก่อน

"No there’s no starting over without finding closure"  
ไม่มีการเริ่มต้นใหม่อะไรทั้งนั้น โดยปราศจากการสิ้นสุด 

สามารถอ่านบทความอื่นเพิ่มเติมจากลิ้ง สารบัญ 

ความคิดเห็น