"เมื่อฉันมองไปที่คุณ ฉันเห็นการให้อภัย
ฉันเห็นความจริง คุณรักฉันในแบบที่ฉันเป็น"
ความรักเป็นแรงผลัดดันที่ทำให้ชีวิตก้าวไปข้างหน้าอย่างมีคุณค่าบนโลกที่กว้างใหญ่ใบนี้ ชีวิตของเราแต่ละคนต่างเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคอยู่เสมอไม่มากก็น้อย เราอาจจะล้มลงบ้างเป็นบางครั้ง แต่การมีคนที่รัก คนที่ไว้ใจ คนที่เชื่ออยู่ข้าง ๆ ก็สามารถทำให้ก้าวผ่านปัญหาเหล่านั้นและทำให้เติบโตไปข้างหน้าอย่างคาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นกำลังใจที่มีให้แก่กันหรือความเข้าใจที่มีให้แก่กัน รวมไปถึงการให้คำปรึกษาต่อปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างใส่ใจ จึงไม่แปลกที่คู่รักบางคู่เพียงแค่มองตาก็ต่างรู้ใจกันอย่างดี
เพลง When I Look at You ขับร้องโดย ไมลีย์ ไซรัส (Miley Cyrus) แต่งโดย ฮิลลารี ลินด์เซย์ (Hillary Lindsey) และ จอห์น แชงก์ส (John Shanks) เป็นเพลงประกอบภาพยนต์เรื่อง The Last Song ในปี 2010 เป็นเรื่องที่สร้างมาจากนิยายขายดีในชื่อเดียวกัน จากนักเขียนโรแมนติกยอดเยี่ยมอย่าง นิโคลัส สปากส์ (Nicholas Sparks) ไซรัสให้ความเห็นเกี่ยวกับเพลงนี้ว่า เวลาเธอร้อง When I Look at You เธอคิดถึงครอบครัว และความรัก ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในภาพยนตร์เรื่องนี้ ดังนั้นเพลงนี้จึงไม่ใช่แค่เพลงคู่รักธรรมดา แต่เป็นเพลงที่เหมาะสมกับทุกความสัมพันธ์
เนื้อเพลงและคำแปล
Everybody needs inspiration
Everybody needs a song
A beautiful melody
When the night's so long
ทุก ๆ คนต่างต้องการแรงบัลดาลใจ
ทุก ๆ คนต่างต้องการบทเพลง
ท่วงทำนองที่แสนงดงาม
That this life is easy
เพราะไม่มีอะไรที่ชัดเจน
When there's no light to break up the dark
That's when I, I
I look at you
เมื่อโลกของฉันกำลังพังทลาย
เมื่อไม่มีแสงสว่างมาทำลายความมืดมิด
นั้นแหละคือเหตุผล
Are flooding the shore and I can't
Find my way home anymore
That's when I, I
I look at you
เมื่อใดที่คลื่นทะเล
ซัดกระทบกับชายฝั่งและฉันไม่สามารถ
หาหนทางกลับได้อีกต่อไป
นั้นแหละคือเหตุผล
I see the truth
You love me for who I am
Like the stars hold the moon
Right there where they belong
And I know I'm not alone
เมื่อฉันมองไปที่คุณ ฉันเห็นการให้อภัย
ฉันเห็นความจริง
คุณรักฉันในแบบที่ฉันเป็น
เหมือนดวงดาวโอบกอดดวงจันทร์
ณ ที่ตรงนั้น ที่ที่พวกนั้นคู่ควร
When there's no light to break up the dark
That's when I, I
I look at you
เมื่อโลกของฉันกำลังพังทลาย
เมื่อไม่มีแสงสว่างมาทำลายความมืดมิด
นั้นแหละคือเหตุผล
Are flooding the shore and I can't
Find my way home anymore
That's when I, I
I look at you
เมื่อใดที่คลื่นทะเล
ซัดกระทบกับชายฝั่งและฉันไม่สามารถ
หาหนทางกลับได้อีกต่อไป
นั้นแหละคือเหตุผล
Just like Kaleidoscope colors that
Cover me, all I need
Every breath that I breathe
Don't you know you're beautiful?
Yeah, yeah, yeah
คุณเข้ามาในชีวิตฉันราวกับความฝันสำหรับฉัน
เหมือนกล้องสลับลายที่มีสีสันมากมาย
ที่ปลกคลุมสายตาของฉัน ทั้งหมดที่ฉันต้องการ
ทุก ๆ ลมหายใจ ที่ฉันได้หายใจ
When the waves
Are flooding the shore and I can't
Find my way home anymore
That's when I, I
I look at you
I look at you
You appear just like a dream
To me
ใช่แล้ว
เมื่อใดที่คลื่นทะเล
ซัดกระทบกับชายฝั่งและฉันไม่สามารถ
หาหนทางกลับได้อีกต่อไป
นั้นแหละคือเหตุผล
ที่ฉันมองไปที่คุณ
ที่ฉันมองหาคุณ
เพลงนี้ค่อนข้างจะเป็นเพลงที่เหมาะสมกับทุกยุคสมัย เพราะไม่ว่าจะยุคสมัยใดก็ต่างเป็นเรื่องท้าทายสำหรับทุกช่วงวัย โดยเฉพาะช่วงวัยที่กำลังค้นหาตัวเอง ในยุคที่ทุกอย่างสามารถได้มาโดยง่ายดาย แต่กลับใช้ชีวิตได้อย่างยากลำบากมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอนาคต การตัดสินใจ ความฝัน อุปสรรค ความกดดัน และอื่น ๆ อีกมากมายที่เกิดขึ้นรอบตัวของเราทุกคน มันจึงเป็นเรื่องยากที่เราจะสามารถเอาชนะ หรือข้ามผ่านมันไปได้ด้วยตัวคนเดียว ดังนั้นการที่เรามีกันและกัน ต่างคนต่างประคองจับมือกันเพื่อข้ามผ่านอุปสรรคและความท้าทายทั้งหมดในชีวิตจะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น
"Everybody needs inspiration, everybody needs a song, a beautiful melody when the night's so long" ทุก ๆ คนต่างต้องการแรงบัลดาลใจ ทุก ๆ คนต่างต้องการบทเพลง ท่วงทำนองที่แสนงดงาม ในยามยืดมิดที่แสนยาวนาน อย่างที่กล่าวในย่อหน้าที่ผ่านมา เราทุกคนไม่ว่าจะช่วงวัยใดต่าง ๆ เผชิญกับความท้าทายและอุปสรรคจำนวนมาก พวกเราจึงต้องการบางสิ่งบางอย่างที่จะช่วยเราให้เดินหน้าอย่างต่อเนื่องได้ ไม่ว่าจะเป็นแรงบัลดาลใจ หรือบทเพลงแสนงดงามที่ปลอบประโลมใจเราในยามที่ความทุกข์หรือเศร้าใจ
"Cause there is no guarantee that this life is easy" เพราะไม่มีอะไรที่ชัดเจน ว่าชีวิตคือสิ่งที่ง่ายดาย
When I look at you, I see forgiveness, I see the truth, you love me for who I am เมื่อฉันมองไปที่คุณ ฉันเห็นการให้อภัย ฉันเห็นความจริง คุณรักฉันในแบบที่ฉันเป็น บทเพลงท่อนนี้งดงามมาก เป็นหัวใจสำคัญของบทเพลงนี้ เพราะสิ่งที่เราปรารถนาอยากจะเห็นเมื่อมองคนที่เรารัก ก็คือความพร้อมที่จะอภัยในความผิดพลาด เนื่องจากธรรมชาติของเราทุกคนต่างทำในสิ่งที่ผิดพลาดอยู่เสมอ และความจริงใจที่มีให้แก่กัน ไม่ใช่ความเสแสร้งแกล้งทำ สุดท้ายเราต่างต้องการใครสักคนที่จะรักเราในแบบที่เราเป็น
"When my world is falling apart, when there's no light to break up the dark" เมื่อโลกของฉันกำลังพังทลาย เมื่อไม่มีแสงสว่างมาทำลายความมืดมิด นั้นแหละคือเหตุผล ที่ฉันมองไปที่คุณ เราทุกคนต่างก็เผชิญกับความรู้สึกทุกข์ ความไม่สบายใจด้วยกันทั้งนั้น มันเหมือนกับความมืดที่ปราศจากแสงสว่างทำให้รู้สึกโดดเดี่ยว "When the waves are flooding the shore and I can't find my way home anymore, that's when I look at you" เมื่อใดที่คลื่นทะเลซัดกระทบกับชายฝั่งและฉันไม่สามารถหาหนทางกลับได้อีกต่อไป นั้นแหละคือเหตุผล ที่ฉันมองไปที่คุณ
เพลงนี้ไม่ใช่เป็นความต้องการหรือปรารถนาอยากมีใครสักคนอยู่ข้างกาย แต่เป็นความรู้สึกขอบคุณที่มอบให้กับคนที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นแฟนหรือคนในครอบครัวที่อยู่เคียงข้างเรา คนที่พร้อมจะให้อภัยเรา จริงใจกับเรา และรักเราในสิ่งที่เราเป็น เพราะชีวิตไม่ใช่เรื่อง่าย ทุกเส้นทางเดินต่างเต็มไปด้วยความมืดมน สับสนที่ยากจะหาทางเดินต่อไป เราจึงปรารถนาที่จะหาแสงสว่างบางอย่างมาค้ำจุนตัวเราไม่ให้หลงทาง เป็นแสงสว่างที่จะพาเรากลับบ้านในความมืดมิด เป็นเหมือนกับเรือที่พาเราไปบนพื้นน้ำที่ไม่เคยนิ่งสงบ
นั้นแหละคือความงดงามที่แท้จริง
เป็นเหตุผลที่ฉันมองไปหาเธอ
สามารถอ่านบทความอื่นเพิ่มเติมจากลิ้ง สารบัญ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น