วิเคราะห์และแปลเพลง Bad Day - Daniel Powter

"คุณอาจจะไม่สามารถทำให้ทุกอย่างกลับมาได้ 
แต่คุณรู้ดีว่าคุณจะสามารถกลับมาเข้มแข็งได้อีก"  

            ผมเชื่อว่าผู้อ่านทุกคนต้องเคยเจอกับช่วงเวลาที่เลวร้ายอย่างแน่นอนรวมทั้งตัวผมเองด้วย ช่วงเวลาที่เลวร้ายสามารถเกิดขึ้นได้กับเราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยใดก็ตาม หลายคนรู้สึกเหมือนแตกสลาย ไร้สิ้นกำลังใจ ซึมเศร้า หลายคนไม่อยากมีชีวิตอยู่ เบื่อกับโลกใบนี้มากยิ่งขึ้น เพราะความสุขราวกับมีเวทมนต์ที่เคยมีเมื่อครั้งเรายังเป็นเด็กมันได้จางหายไปแล้ว เหลือเพียงแต่ความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน สิ่งนี้เกิดขึ้นกับเราทุกคนและไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงมันได้อย่างแน่นอน

            เพลง Bad Day แต่งและขับร้องโดย แดเนียล พาวเทอร์ (Daniel Powter) นักร้องแคนนาดาแนวป๊อปที่โด่งดัง ซึ่งเขาได้กล่าวถึงเพลงนี้เอาไว้ว่า "เป็นเพลงที่เกี่ยวกับความพยายามจะทำให้คนอื่นรู้สึกดีขึ้น" เขากล่าวต่อ "เหมือนที่ปู่ของฉันเคยพูดว่า บ่นและเอาแต่ใจไปก็เท่านั้นแหละ เพราะมีคนมากมายที่ดีกว่าและก็แย่กว่าหลาน" เพลงนี้จึงเป็นเพลงที่พาวเทอร์ล้อเลียนผู้อื่นและในขณะเดียวกันเขาก็กำลังล้อเลียนตัวเองด้วย เหมือนกับว่าความรู้สึกเลวร้ายที่คุณกำลังเผชิญอยู่มันอาจจะมาจากวันแย่ ๆ ที่คุณเจอเท่านั้นก็ได้

Daniel Powter - Bad Day

เนื้อเพลงและคำแปล

Where is the moment we needed the most? 

You kick up the leaves, and the magic is lost 

They tell me your blue sky's faded to gray 

They tell me your passion's gone away 

And I don't need no carrying on

ช่วงเวลาที่เราปรารถนามากที่สุดอยู่ที่ไหนกัน

คุณทำในสิ่งที่มีความสุข และช่วงเวลาแสนวิเศษนั้นก็หาย

พวกเขาต่างบอกกับฉันว่าท้องฟ้าที่งดงามของคุณได้เปลี่ยนไปเป็นท้องฟ้าที่หม่นหมอง

พวกเขาต่างบอกกับฉันว่าแรงบัลดาลใจของคุณได้สลายหายไปแล้ว

และฉันไม่จำเป็นต้องพยายามทำอะไรกับมันทั้งสิ้น

You stand in the line just to hit a new low 

You're faking a smile with the coffee to go 

You tell me your life's been way off line 

You're falling to pieces every time 

And I don't need no carrying on

คุณยืนอยู่ตรงจุดนั้น พึ่งจะได้เจอกับความรู้สึกแย่ ๆ 

คุณเดินมากำลังแสร้งยิ้มกับด้วยกาแฟแก้วนั้น

คุณบอกกับฉันว่าชีวิตของคุณไม่เหมือนกับที่คิดเอาไว้

คุณแตกสลายเป็นชิ้น ๆ ทุกครั้งที่ล้มลง

และฉันไม่จำเป็นต้องพยายามทำอะไรกับมันทั้งสิ้น

'Cause you had a bad day 

You're taking one down 

You sing a sad song just to turn it around 

You say you don't know 

You tell me, "don't lie" 

You work at a smile, and you go for a ride 

You had a bad day 

The camera don't lie 

You're coming back down, and you really don't mind 

You had a bad day 

You had a bad day

เพราะคุณกำลังเจอกับวันที่แย่

คุณกำลังเสียใจ

คุณร้องเพลงเศร้าเพื่อจะทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น

คุณบอกว่าคุณไม่รู้

คุณบอกฉันว่า "อย่าโกหก"

คุณพยายามจะยิ้มและอดทนต่อไป

คุณกำลังเจอกับวันที่แย่

มันชัดเจนจนไม่ต้องปกปิดอะไรทั้งสิ้น

แต่คุณก็ล้มลงอีกครั้งหนึ่ง และคุณแทบจะไม่ใส่ใจกับมัน

คุณกำลังเจอกับวันที่แย่

เพียงแค่วันแย่ ๆ เท่านั้น

Well you need a blue sky holiday 

The point is they laugh at what you say 

And I don't need no carrying on

คุณปรารถนาจะได้พักท่ามกลางท้องฟ้าที่งดงาม

ประเด็นก็คือพวกเขาหัวเราะกับสิ่งที่คนพูดออกมา

และฉันไม่จำเป็นต้องพยายามทำอะไรกับมันทั้งสิ้น

'Cause you had a bad day 

You're taking one down 

You sing a sad song just to turn it around 

You say you don't know 

You tell me, "don't lie" 

You work at a smile, and you go for a ride 

You had a bad day 

The camera don't lie 

You're coming back down, and you really don't mind 

You had a bad day 

เพราะคุณกำลังเจอกับวันที่แย่

คุณกำลังเสียใจ

คุณร้องเพลงเศร้าเพื่อจะทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น

คุณบอกว่าคุณไม่รู้

คุณบอกฉันว่า "อย่าโกหก"

คุณพยายามจะยิ้มและอดทนต่อไป

คุณกำลังเจอกับวันที่แย่

มันชัดเจนจนไม่ต้องปกปิดอะไรทั้งสิ้น

แต่คุณก็ล้มลงอีกครั้งหนึ่ง และคุณแทบจะไม่ใส่ใจกับมัน

คุณกำลังเจอกับวันที่แย่

Sometimes the system goes on the blink 

And the whole thing, it turns out wrong 

You might not make it back and you know 

That you could be well, oh, that strong 

And I'm not wrong (yeah, yeah, yeah)

บางครั้งระบบมันก็เบลอ สับสนไปบ้าง

และทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันผิดพลาดไปหมด

คุณอาจจะไม่สามารถทำให้ทุกอย่างกลับมาได้ แต่คุณรู้ดี

ว่าคุณจะสามารถกลับมาเข้มแข็งได้อีก

และฉันคิดไว้ไม่ผิดแน่ ๆ

So where is the passion when you need it the most? 

Oh, you and I 

You kick up the leaves and the magic is lost

แล้วแรงบัลดาลใจที่คุณปรารถนามากที่สุดอยู่ที่ไหนกัน

คุณและฉัน

คุณทำในสิ่งที่มีความสุข และช่วงเวลาแสนวิเศษนั้นก็หาย

'Cause you had a bad day 

You're taking one down 

You sing a sad song just to turn it around 

You say you don't know 

You tell me, "don't lie" 

You work at a smile, and you go for a ride 

You had a bad day 

The camera don't lie 

You're coming back down, and you really don't mind 

You had a bad day 

You had a bad day

เพราะคุณกำลังเจอกับวันที่แย่

คุณกำลังเสียใจ

คุณร้องเพลงเศร้าเพื่อจะทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น

คุณบอกว่าคุณไม่รู้

คุณบอกฉันว่า "อย่าโกหก"

คุณพยายามจะยิ้มและอดทนต่อไป

คุณกำลังเจอกับวันที่แย่

มันชัดเจนจนไม่ต้องปกปิดอะไรทั้งสิ้น

แต่คุณก็ล้มลงอีกครั้งหนึ่ง และคุณแทบจะไม่ใส่ใจกับมัน

คุณกำลังเจอกับวันที่แย่

เพียงแค่วันแย่ ๆ เท่านั้น

had a bad day

had a bad day

had a bad day

แค่วันแย่ ๆ เท่านั้น

วิเคราะห์เพลง

           นอกจากเพลง Bad Day จะเป็นเพลงที่ให้กำลังใจแล้ว แต่มันยังเป็นเพลงที่แดเนียล พาวเทอร์ (Daniel Powter) แต่งโดยล้อเลียนตัวเองด้วย เวลาที่เขาเผชิญกับความไม่สบายใจจนทำให้เกิดความรู้สึกแย่ ๆ ขึ้นมา เพราะหัวใจหลักของบทเพลงนี้ก็คือ ไม่ว่าคุณกำลังมีความรู้สึกที่แย่มากสักแค่ไหนก็ตาม วิตกกังวล ซึมเศร้า หรือปวดร้าว มันเป็นเพราะว่าคุณเจอกับวันที่แย่ ๆ ซึ่งในความจริงแล้วมันก็ถูกครึ่งหนึ่ง เราต้องเจอกับวันแย่ ๆ เราถึงได้ทุกข์ใจ อย่างไรก็ตามเราก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าความรู้สึกแย่ ๆ มันอาจจะมาจากประสบการณ์ในอดีตก็ได้เช่นกัน

            คำว่าวันแย่ ๆ เป็นความหมายที่กว้างอาจจะหมายถึง วันที่ทุกอย่างดูเฮงซวยไปหมด เหมือนกับโชคไม่เข้าข้างหรือคนรอบข้างปฏิบัติกับเราแย่ ๆ ก็ได้เช่นกัน ลักษณะของเพลงนี้จะเป็นการให้คำแนะนำที่ดีกับเรา เมื่อเรากำลังเผชิญกับความรู้สึกแย่ ๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นความคับข้องใจที่เราไม่ได้มีความสุขเหมือนอดีตที่เคยผ่านมา "You kick up the leaves, and the magic is lost, they tell me your blue sky's faded to gray, they tell me your passion's gone away" คุณทำในสิ่งที่มีความสุข และช่วงเวลาแสนวิเศษนั้นก็หายพวกเขาต่างบอกกับฉันว่าท้องฟ้าที่งดงามของคุณได้เปลี่ยนไปเป็นท้องฟ้าที่หม่นหมอง พวกเขาต่างบอกกับฉันว่าแรงบัลดาลใจของคุณได้สลายหายไปแล้ว

            อย่างไรก็ตามบทเพลงนี้ได้ให้คำแนะนำที่ดีกับเราพอสมควร เพราะความรู้สึกแย่ ๆ ที่เรากำลังเผชิญนั้นไม่ว่าจะเป็น "You stand in the line just to hit a new low, you're faking a smile with the coffee to go, you tell me your life's been way off line, you're falling to pieces every time" คุณยืนอยู่ตรงจุดนั้น พึ่งจะได้เจอกับความรู้สึกแย่ ๆ คุณเดินมากำลังแสร้งยิ้มกับด้วยกาแฟแก้วนั้น คุณบอกกับฉันว่าชีวิตของคุณไม่เหมือนกับที่คิดเอาไว้ คุณแตกสลายเป็นชิ้น ๆ ทุกครั้งที่ล้มลง ซึ่งทั้งหมดมันก็เป็นเพียงแค่ 
"'Cause you had a bad day" เพราะคุณกำลังเจอกับวันที่แย่  

            นอกจากนั้นเราจะต้องเจอกับวันแย่ ๆ ตลอดไป อย่างไรก็ตามช่วงเวลาแย่ ๆ มันก็ให้อะไรบางอย่างแก่เรา "You work at a smile, and you go for a ride, you had a bad day, the camera don't lie, you're coming back down, and you really don't mind" คุณพยายามจะยิ้มและอดทนต่อไป คุณกำลังเจอกับวันที่แย่ มันชัดเจนจนไม่ต้องปกปิดอะไรทั้งสิ้น แต่คุณก็ล้มลงอีกครั้งหนึ่ง และคุณแทบจะไม่ใส่ใจกับมัน กล่าวคือ ยิ่งเราเจอวันแย่ ๆ มากแค่ไหน มันก็จะทำให้เราเข้มแข็งมากขึ้น เพราะมันทำให้เราเรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นการอยู่ร่วมกับผู้อื่น การแก้ไขข้อผิดพลาด หรือการปล่อยวางก็ตาม

            เมื่อเราสามารถกลับขึ้นมายืนได้อีกครั้งหนึ่ง ก็ต้องมีอีกวันและอีกวันและอีกวันที่จะต้องล้มลง "Sometimes the system goes on the blink and the whole thing, it turns out wrong, you might not make it back and you know that you could be well, oh, that strongบางครั้งระบบมันก็เบลอ สับสนไปบ้าง และทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันผิดพลาดไปหมด คุณอาจจะไม่สามารถทำให้ทุกอย่างกลับมาได้ แต่คุณรู้ดีว่าคุณจะสามารถกลับมาเข้มแข็งได้อีก และสุดท้ายความเข้มแข็งที่ก่อตัวขึ้นมาจะช่วยเหลือเรา 
ให้สามารถมีชีวิตที่มีความสุขได้ แม้หลายเรื่อง 
จะไม่เป็นไปอย่างที่เราปรารถนาไว้ก็ตาม 

สามารถอ่านบทความอื่นเพิ่มเติมจากลิ้ง สารบัญ  

ความคิดเห็น