วิเคราะห์และแปลเพลง Vega - Ed Sheeran

"ต่อสู้กับกระแสคลื่น แต่คลื่นมัน จะต้องผ่านไป"

            ก่อนอื่นเลยสิ่งที่เราต้องรู้ก็คือความหมายของคำว่า Vega หมายถึงดาวเวกา เป็นดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดในกลุ่มดาวพิณ เป็นดาวที่สว่างที่สุดเป็นอันดับห้าในท้องฟ้าราตรี เนื่องจากในบทเพลงนี้ได้รับแรงบัลดาลใจมาจากสถานการณ์ชีวิตของภรรยาของเอ็ด เชอร์รี่ ซีบอร์น (Cherry Seaborn) ที่ได้รับการวินิจัยว่ามีเนื้องอกในระหว่างที่กำลังท้องอยู่ ซึ่งเธอยังไม่ได้สามารถรับการรักษาได้เพราะจะส่งผลถึงเด็กในครรภ์ จึงเป็นสถานการณ์ที่ลำบากใจ เพลงนี้จึงเหมือนกับการปลอบประโลมช่วงชีวิตที่ยากลำบากนี้ทั้งตัวเขาและเธอ

Ed Sheeran - Vega

เนื้อเพลงและคำแปล

Rain keeps beating on the rooftop, muddying the glass 

But, God, I love the sound of heaven 

Sat cross-legged on the carpet 

Listenin' to vinyl, trying to ignore the weather

ฝนกระหน่ำลงบนหลังคา ทำให้กระจกขุ่นมัว

แต่ พระเจ้า ฉันรักเสียงแห่งสวรรค์เช่นนี้

นั่งไขว่ห้างบนพรม

ฟังเสียงแห่งสวรรค์ พยายามที่จะไม่สนใจอากาศภายนอก

This week was heavy, I buckled under all the weight 

What can you do, but pray? 

And count your blessings, it wasn't any other way 

Don't leave it up to fate

สัปดาห์นี้ชั่งหนักหน่วง ตัวฉันโค้งงอเพราะแบกรับน้ำหนักอันมากล้น

ฉันจะทำอย่างไรได้ ได้แต่สวดมนต์หรือ

และคอยนับพรของคุณ มันไม่มีวิธีอื่น

อย่าปล่อยให้มันเป็นไปตามโชคชะตา

Fighting the tide, but the waves, they will part 

Light up the night, we were made to be stars 

But it burns like hell to be Vega

พยายามอย่างหนักที่จะสู้กับกระแสน้ำ แต่เกรียวคลื่นมันจะผ่านไป

ส่องสว่างท่ามกลางค่ำคืน เราถูกสร้างเพื่อเป็นดวงดาว

แต่มันถูกแผดเผาราวกับนรกเพื่อที่จะเป็นดาวเวกา

Clouds keep forming over this house 

Blocking out the sun, I'm trying to keep it all together 

One door closes then one opens, gotta keep focus

If we believe, then she'll get better

เมฆยังคงก่อตัวปกคลุมเหนือบ้านหลังนี้

ปกปิดแสงอาทิตย์ ฉันพยายามอย่างยิ่งที่จะรักษาทุกอย่างเอาไว้

ประตูหนึ่งปิด หลังจากนั้นอีกบานก็เปิดออก ต้องรวบรวมสติเอาไว้

ถ้าเราเชื่อมั่น เธอก็จะปลอดภัย

The days are long, but they pass within an instant, babe

It is the strangest thing

I'll count my blessings the day I see you smile again

This war we've got to win

วันเวลาช่างยาวนาน แต่ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน ที่รัก

มันคือสิ่งที่แปลกประหลาดที่สุด

ฉันจะนับพรของฉันในวันที่เห็นเธอยิ้มอีกครั้ง

สงครามครั้งนี้เราจะต้องชนะ

Keep it inside, don't let no one see your heart

No one can judge, we're the same in the dark

Fighting the tide, but the waves, they will part

Light up the night, we were made to be stars

But it burns like hell to be Vega

เก็บมันไว้ภายใน อย่าให้ใครสักคนเห็นหัวใจของคุณ

ไม่มีใครสามารถตัดสินได้ เราอยู่บนความมืดมิดเดียวกัน

ต่อสู้กับกระแสคลื่น แต่คลื่นมัน จะต้องผ่านไป

จุดแสงสว่างท่ามกลางความมืด เราถูกสร้างมาเพื่อเป็นดวงดาว

แต่มันถูกแผดเผาราวกับนรกเพื่อที่จะเป็นดาวเวกา

Same problems, different options

Pain comes at a cost, but we've got this

Need respite, bleed time dry

She'll be fine, she'll be fine

ปัญหาเดียวกัน ตัวเลือกต่างกัน

บาดแผลมักมาพร้อมกับราคาที่ต้องจ่าย แต่เราจะผ่านมันไป

จำเป็นต้องพักผ่อน เพื่อให้เลือดแห้งลง

เธอจะต้องไม่เป็นอะไร เธอจะต้องไม่เป็นอะไร

Same problems, different options

Pain comes at a cost, but we've got this

Need rest, bite, bleed time dry

She'll be fine, she'll be fine

ปัญหาเดียวกัน ตัวเลือกต่างกัน

บาดแผลมักมาพร้อมกับราคาที่ต้องจ่าย แต่เราจะผ่านมันไป

จำเป็นต้องพักผ่อน เพื่อให้เลือดแห้งลง

เธอจะต้องไม่เป็นอะไร เธอจะต้องไม่เป็นอะไร

Rain keeps beating on the rooftop, worrying to death

But I guess this is human nature

We are meant to shine like stars, but

That don't mean it don't burn like hell to be Vega

ฝนยังคงกระหน่ำลงบนหลังคา กังวลแทบเป็นแทบตาย

แต่ฉันเดาว่านี่คือธรรมชาติของมนุษย์

เราควรจะส่องแสงราวกับดางดาว แต่

ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มอดไหม้ราวกับนรกเพื่อที่จะเป็นดาวเวกา

วิเคราะห์เพลง

            อย่างที่ผมได้กล่าวไว้ข้างต้น ภรรยาของเอ็ด เชอร์รี่ ซีบอร์น (Cherry Seaborn) ได้รับการวินิจัยว่ามีเนื้องอก ในระหว่างที่กำลังท้องอยู่ ซึ่งเธอยังไม่ได้สามารถรับการรักษาได้เพราะจะส่งผลถึงเด็กในครรภ์ ทำให้เอ็ดแต่งเพลงนี้ขึ้นมาด้วยความกังวล และให้กำลังใจภรรยาสุดที่รักของเขา โดยมีหัวใจสำคือดาวเวกา (Vega) ซึ่งเป็นดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดในกลุ่มดาวพิณ เป็นดาวที่สว่างที่สุดเป็นอันดับห้าในท้องฟ้าราตรี

            เราจะเห็นได้จากเนื้อเพลง พยายามอย่างหนักที่จะสู้กับกระแสน้ำ แต่เกรียวคลื่นมันจะผ่านไป ส่องสว่างท่ามกลางค่ำคืน เราถูกสร้างเพื่อเป็นดวงดาว แต่มันถูกแผดเผาราวกับนรกเพื่อที่จะเป็นดาวเวกา (Fighting the tide, but the waves, they will part, light up the night, we were made to be stars, but it burns like hell to be Vega) แสดงให้เห็นว่าทั้งสองคนกำลังต่อสู้กับช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ แต่อีกไม่นานเมื่อมันผ่านไป ลูกของเขาและเธอซึ่งเป็นสิ่งสวยงามจะได้ลืมตาดูโลก

            แต่ท่อนที่ผมชอบมากที่สุดก็คือ ฝนยังคงกระหน่ำลงบนหลังคา กังวลแทบเป็นแทบตาย แต่ฉันเดาว่านี่คือธรรมชาติของมนุษย์ เราควรจะส่องแสงราวกับดางดาว แต่ ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มอดไหม้ราวกับนรกเพื่อที่จะเป็นดาวเวกา (Rain keeps beating on the rooftop, worrying to death, but I guess this is human nature, we are meant to shine like stars, but, that don't mean it don't burn like hell to be Vega) เพราะมันเป็นการแสดงธาตุแท้ของมนุษย์ออกมา แม้จะกังวลแทบตายและก็ยังมีความหวังเสมอ

            ชีวิตของเราทุกคนก็เป็นเช่นนี้ เราเป็นมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความกังวล ความเศร้า ความหวาดกลัว แต่สุดท้ายเราก็ต้องก้าวเดินต่อไปพร้อมกับความหวังเสมอ เพราะสุดท้ายแล้วบทเพลงนี้ก็จบด้วย แต่ฉันเดาว่านี่คือธรรมชาติของมนุษย์ เราควรจะส่องแสงราวกับดางดาว แต่ ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มอดไหม้ราวกับนรกเพื่อที่จะเป็นดาวเวกา (But I guess this is human nature, we are meant to shine like stars, but that don't mean it don't burn like hell to be Vega) แม้ว่าเราจะเป็นมนุษย์ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะถูกแผดเผามอดไหม้เพื่อที่จะเป็นดวงดาวเสมอไป 

เรายังคงสามารถก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมีความหวังได้เสมอ

ความคิดเห็น